กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า 1 เดือน หลังจากที่ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีผลใช้บังคับคือตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา นั้น กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อการใช้สิทธิลดภาษีภายใต้ JTEPA ไปแล้วกว่า 7,000 ฉบับ หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 323 ล้านเหรียญสหรัฐ (มูลค่าประมาณ10,600 ล้านบาท) สินค้าที่มีการขอใช้สิทธิภายใต้ JTEPA ค่อนข้างมาก ได้แก่ กุ้งแปรรูป สิ่งทอ และแป้งมันสำปะหลังแปรรูป เป็นต้น
สำหรับสินค้าที่ญี่ปุ่นให้โควตาส่งออกแก่ไทย โดยเก็บภาษีในอัตรา 0% ได้แก่ กล้วย (โควตา 1,667 ตัน) สับปะรดสด (42 ตัน) และโควตาภาษีสำหรับเนื้อหมูแปรรูป 500 ตัน (จากภาษี 20% ลดเหลือ 16%) ปรากฏว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกหนังสือรับรองโควตาภาษีส่งออกสำหรับสินค้ากล้วยและเนื้อหมูแปรรูปไปทั้งสิ้น 117.5 ตัน และ 8.5 ตัน ตามลำดับ ส่วนสินค้าสับปะรดนั้น ยังมิได้มีผู้มาขอใช้โควตาแต่อย่างใด
ส่วนสินค้าเกษตรที่ไทยผูกพันโควตานำเข้าไว้กับ WTO รวม 21 รายการ ซึ่งไทยได้ตกลงลดภาษีลงเหลือ 0% อาทิ น้ำนมดิบและนมพร้อมดื่ม มะพร้าว ถั่วเหลือง นั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้มายื่นขอโควตานำเข้าแต่อย่างใดสำหรับสินค้าเหล็ก 3 กลุ่มที่ไทยให้โควตานำเข้าเป็นการเฉพาะแก่ญี่ปุ่น คือ เหล็กรีดร้อน (Q9) เหล็กรีดร้อนสำหรับรีดเย็น (Q10) และ เหล็กรีดร้อนสำหรับรีดเย็นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ (Q11) นั้น กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิยกเว้นภาษีศุลกากร สำหรับสินค้าเหล็กแผ่นในกลุ่ม Q11 ปริมาณรวม 860 ตัน (มูลค่า 5 แสนเหรียญสหรัฐ) จากโควตา 47,000 ตัน ส่วนสินค้าเหล็กในกลุ่มอื่นยังไม่มีการขอโควตาแต่อย่างใด
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่กรมการค้าต่างประเทศ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และจัดสัมมนา ให้ผู้ส่งออกและผู้ที่สนใจได้ทราบแนวปฏิบัติและการใช้ประโยชน์จากความตกลง JTEPA อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ค. — พ.ย. 2550 มาแล้วกว่า 28 ครั้ง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งมั่นใจว่าทำให้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจแนวปฏิบัติในการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ JTEPA มากขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยให้เหนือกว่าประเทศคู่แข่ง ซึ่งจะส่งผลให้การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่ สำนักส่งเสริมและพัฒนาสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศโทร. 1385 โทรสาร 0 2547 4816 www.dft.go.th , e-mail : tpdft@mocnet.moc.go.th