กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--ไอแอมพีอาร์
ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงการออกกำลังกายในเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นไว้ว่า ในช่วงอายุ 15-17 ปี เด็กผู้ชายจะออกกำลังกายเพื่อให้เกิดกำลัง ความแข็งแรง รวดเร็ว และความอดทน ส่วนผู้หญิงจะเน้นการออกกำลังกายประเภทที่ไม่หนักแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเสริมสร้างรูปร่าง ในขณะที่ช่วงอายุ 18-35 ปี จะเป็นการออกกำลังกายเพื่อฝึกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของร่างกาย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดกิจกรรมการออกกำลังกายควรมีความหลากหลายเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อให้ครบทุกส่วนของร่างกาย
การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ แต่หากทำซ้ำๆ นานๆ ก็กลายเป็นความเบื่อหน่ายได้ วัยรุ่นนักคิด 3 คนที่รวมตัวกันในนามทีม "Smart Kids F T J" นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เล็งเห็นปัญหานี้เช่นกันเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อที่นี่เป็นโรงเรียนประจำ ส่งผลให้การออกกำลังกายเป็นไปตามตารางที่กำหนดไว้ ขาดความตื่นเต้นสนุกสนาน จึงได้ร่วมกันพัฒนาเกมส์หยอดเหรียญผสานกับกีฬาต่อยมวย จนเกิดเป็นผลงาน "Smart Punching Bag" ที่สามารถคว้า รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ THAIHEALTH INNO Awards ในระดับมัธยมศึกษา ที่จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ไปครอบครองได้
นายรชานนท์ บุญพุทธ "ต่อ"สมาชิกทีม "Smart Kids F T J" กล่าวว่า ทางโรงเรียนสนับสนุนให้นักเรียนออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาเป็นประจำ แต่จากการเก็บข้อมูลพบว่า นักเรียนที่เล่นกีฬามากกว่า 1 ชนิดมีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ที่เหลือเป็นการเล่นกีฬาเพียงชนิดเดียว ส่งผลให้เพื่อนนักเรียนกลุ่มนี้เบื่อการออกกำลังกายง่ายขึ้น
"ในโรงเรียนมีอุปกรณ์กีฬาหลายชนิดให้นักเรียนได้เลือกเล่น แต่มีอยู่หลายชนิดที่นักเรียนไม่นิยม อย่างเช่น กระสอบทราย ทั้งที่การต่อยมวยเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ผู้เล่นเหนื่อยได้เร็วกว่ากีฬาอื่นๆ ช่วยบริหารระบบหัวใจและหลอดเลือด สร้างความสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ และสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อด้วย แต่เมื่อวิเคราะห์อีกครั้งก็พบว่าเพื่อนนักเรียนนิยมเล่นเกมส์ punching ตามห้างสรรพสินค้าทั้งที่ต้องเสียเงิน เพราะสนุกจากการได้วัดแรงต่อยของตนเอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของผลงาน Smart Punching Bag ที่นำกระสอบทรายมาพัฒนาร่วมกับเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือน เพื่อสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นให้นักเรียนหันมาออกกำลังกายด้วยการต่อยมวยมากยิ่งขึ้น"
นวัตกรทีม Smart Kids F T J ได้นำเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนติดตั้งบนตัวกระสอบทราย โดยกระจายจุดรับแรงสั่นสะเทือนไว้ทั่วตัวกระสอบ พร้อมติดตั้งโปรแกรมที่สามารถแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการออกกำลังกายแบบจำเพาะเจาะจง ใน Mode ต่างๆ ช่วยให้ผู้เล่นเห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
"Smart Punching Bag มีโปรแกรมการเล่น 2 แบบ คือ แบบธรรมดา (Normal mode) ที่ผู้ชกสามารถชกกระสอบไปเรื่อยๆ และหยุดได้เมื่อต้องการ โดยผลรวมของคะแนนจะได้จากความแรงของการชกในทุกๆ หมัด และ แบบ Punches Gaming mode ผู้ชกจะกลายเป็นผู้เล่น เริ่มชกจาก level 1 คะแนนเริ่มต้นเป็น 0 โดยโปรแกรมจะจับเวลานับถอยหลัง 5 นาที ผู้เล่นต้องชกให้เท่ากับหรือมากกว่าแต้มที่โปรแกรมกำหนดไว้ หากทำได้จะสามารถเล่นต่อใน level ถัดไป แต่หากทำคะแนนได้ไม่ถึงที่กำหนดจะถือว่า gameover ต้องไปเริ่มต้นเล่นใหม่ ซึ่งใน mode นี้ ผู้เล่นจะได้ออกกำลังกายหนักขึ้น ได้สนุกกับการแข่งขันกับตนเองและผู้อื่นได้ สามารถวัดผลสุขภาพได้ชัดเจน ได้แก่ จำนวนและความแรงของหมัด ความยืดหยุ่นคล่องตัวของร่างกายโดยดูจากเวลาที่ใช้ และปริมาณของแคลอรี่ที่เผาผลาญไปจากการชก" นายกลวัชร สายสวรรค์ "เจฟฟรี" เล่าถึงกระบวนการและจุดเด่นของนวัตกรรมที่คิดค้น
ในขณะที่ นายธีรกานต์ โชควัฒนพรชัย "ฟิล์ม"สมาชิกคนที่ 3 ของ ทีม Smart Kids F T J อธิบายเพิ่มเติมว่า Smart Punching Bag นำไปทดสอบในโรงเรียนจุฬากรภรณ์ฯ โดยติดตั้งอุปกรณ์ไว้ที่โรงยิม รวมถึงสวนสาธารณะที่คนนิยมไปออกกำลังกาย เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่บนตัวกระสอบเพื่อให้ได้รับผลที่ถูกต้องแม่นยำตามที่กำหนดไว้ในโปรแกรม เป็นการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในแต่ละวัน จำนวนผู้ที่มาใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วงอายุและเพศของผู้ใช้ด้วย
"อุปกรณ์ซึ่งมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของกระสอบทราย จะมีปุ่มสำหรับกดเลือก Mode ที่ต้องการ และป้อนข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่น ได้แก่ เพศและอายุ เมื่อชกไปเรื่อยๆ หน้าจอแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการชก ผู้เล่นจึงได้รับความสนุกสนาน สามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้ออกกำลังกายหนักขึ้น และผู้ใช้ยังสามารถแข่งขันกับตนเองและเพื่อนได้ ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาจากกระสอบทรายและเป็นหุ่นคน และทำให้เกิดสัญญาณเสียง และการแสดงผลด้วยเสียง เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้พิการทางสายตา ให้มีโอกาสได้ออกกำลังกายโดยการต่อยมวย รวมถึงจะบันทึกข้อมูลสำหรับทำงานวิจัยในอนาคตเพื่อออกแบบเครื่องมือที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นต่อไป"
ทางด้าน นายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปีพ.ศ. 2560 หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินเปิดเผยว่า Smart Punching Bang เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถตอบวัตถุประสงค์เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพได้ สิ่งสำคัญคือการนำไปใช้ได้จริง สามารถดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามา และกระตุ้นให้อยากทำกิจกรรมโดยการชกต่อยกระสอบทราย
"จริงๆ แล้ว Smart Punching Bag ไม่ใช่แค่กระสอบทราย แต่เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้คนสนใจกิจกรรมที่สามารถพัฒนาตนเองและอยากกลับมาเล่นอีก ซึ่งผู้เล่นล้วนอยากชนะตัวเอง อยากชกให้แรง และนานกว่าเดิม อยากแข่งขันกับเพื่อน เมื่อถูกพัฒนาเป็นโปรแกรมเกม ผู้เล่นยิ่งมีความท้าทายกับตัวเองมาก ซึ่งผลงานของทีมนี้มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ จากเดิมกระสอบทรายออกมาแข็งๆ แบบนักมวย เมื่อเด็กผ่านการ workshop ของสสส. และเกิดความเข้าใจว่าการพัฒนาผลงานต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์เป็นแกนหลักนั่นคือเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ จึงเกิดการพัฒนาต่อยอดให้มีโปรแกรมที่วัดผลลัพธ์ในเชิงสุขภาพได้ นั่นแสดงว่าเด็กๆ เจ้าของผลงานมีความเข้าใจเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพเป็นกระบวนการมากขึ้น โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหา และเมื่อคิดค้นขึ้นมาแล้ว ต้องมีการสำรวจและเก็บข้อมูลเพื่อให้รู้ว่าตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และที่สำคัญคือต้องขยายผลในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย" ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ฯ กล่าวสรุป