กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.38-1,205.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 18,710 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น. ของวันที่ 29/08/61)
แนวโน้มวันที่ 30 สิงหาคม 2561
ความกังวลเกี่ยวกับสงครามภาษีระหว่างจีนและสหรัฐ หนุนดอลลาร์และจำกัดการปรับขึ้นของราคาทองคำ หลังจาก ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการเจรจาทางการค้ากับจีน ทั้งนี้ กำหนดเส้นตายสำหรับการทำประชาพิจารณ์ต่อการขึ้นภาษี ของปธน.ทรัมป์ต่อสินค้าจีนเพิ่มเติมวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ คือวันที่ 5 ก.ย. อีกทั้งปธน.ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า จีนได้ล้วงข้อมูลอีเมลของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจำนวนมากเป็นเอกสารลับซึ่งถูกจีนแฮ็ค การดำเนินการขั้นต่อไปควรเป็นหน้าที่ของ FBI และกระทรวงยุติธรรม (DOJ) ความขัดแย้งดังกล่าวระหว่างจีนและสหรัฐ กระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ที่อยู่ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค. ทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 18 ปี ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณคาบสมุทรเกาหลี ยังคงพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้นายเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า กองทัพสหรัฐยังไม่มีแผนระงับปฏิบัติการซ้อมรบสำคัญกับเกาหลีใต้ หลังจากการระงับปฏิบัติการทางการทูตกับเกาหลีเหนือในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเตือนผ่านจดหมายถึงนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์เสี่ยงประสบความล้มเหลว นอกจากนี้ รัสเซียเตรียมจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 37 ปีภายใต้รหัส "Vostok-2018" หรือ "East-2018 ในวันที่ 11-15 ก.ย.โดยจะมีทหารเข้าร่วมเกือบ 300,000 นาย, รถยนต์ทางทหาร 36,000 คัน และเครื่องบินมากกว่า 1,000 ลำ ซึ่งกองทัพจีนทยอยเดินทางไปรัสเซีย เตรียมพร้อมเข้าร่วมซ้อมรบ Vostok-2018 ด้วย สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,194-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมทั้งตั้งจุดทำกำไรและตัดขาดทุนให้ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หลังจากราคาอ่อนตัวลงอาจเกิดการดีดตัวขึ้นระยะสั้น หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,194-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,194 (18,400บาท) 1,182 (18,250บาท) 1,171 (18,050บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,800บาท) 1,229 (19,000บาท) 1,235 (19,150บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,194 (18,540บาท) 1,182 (18,360บาท) 1,171 (18,190บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,910บาท) 1,229 (19,090บาท) 1,235 (19,230บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999