กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผนึกกำลัง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก การรถไฟแห่งประเทศไทยการท่าเรือแห่งประเทศไทย และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย โดยมุ่งบูรณาการการทำงานใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. การวางแผนตรวจสอบ 2.การใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และ3. การส่งเสริมและให้ความรู้ เพื่อยกระดับมาตรฐานการขนส่ง ป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุจากกิจกรรมในการขนส่งสินค้าให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและกฎหมายเพื่อความปลอดภัยให้กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์จากสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม
นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากภารกิจของกนอ. ที่มุ่งจัดตั้งนิคมฯ เพื่อรองรับนักลงทุนและผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมในนิคมฯ แล้ว กนอ.ยังได้ตระหนักถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยของนิคมฯ ภายใต้มาตรฐานด้านการขนส่งและและโลจิสติกส์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการในนิคมฯ รวมถึงด้านความปลอดภัยสาธารณชนที่ใช้การขนส่งทางถนนร่วมกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่มีความสำคัญที่เกิดขึ้นระหว่างการประกอบอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาได้ให้การส่งเสริมและพัฒนาด้านดังกล่าวในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งในนิคมอุตสาหกรรม การตรวจตรามาตรฐานของพาหนะขนส่ง เช่น เรือ รถบรรทุก ตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงการติดตามด้านความปลอดภัยและการสร้างความเดือดร้อนรำคาญที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชน
นายอัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด กนอ.ได้ร่วมมือกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก การรถไฟ แห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ในการควบคุมดูแลรถบรรทุกสินค้าให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ควบคุมกำกับดูแลการใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยและการใช้รถ พร้อมส่งเสริมให้มีการตรวจสอบสภาพรถให้มั่นคงแข็งแรงและไม่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าสมรรถนะของรถหรือเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเพื่อความปลอดภัยและยกระดับมาตรฐานการขนส่ง นอกจากนี้ การบูรณาการการทำงานระหว่างกันในครั้งนี้ ยังได้มุ่งยกระดับความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ และตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมกำหนดมาตรการเชิงป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนร่วมกันเข้มงวดตรวจสอบสมรรถนะของรถบรรทุกขนส่งสินค้าและคนขับรถอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีกรอบการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่
1. การวางแผนตรวจสอบ โดยจะบูรณาการร่วมกันจัดวางระบบการตรวจสอบและกำกับดูแลรถที่อยู่ในความรับผิดชอบที่มีการนำไปใช้ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงาน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรืออุตสาหกรรม ที่จะไม่ให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าสมรรถนะของรถหรือเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งตรวจสอบให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยก่อนการนำรถออกมาใช้ทำการขนส่ง พร้อมทั้งต้องมีการตรวจสอบอุปกรณ์ล็อกตู้คอนเทนเนอร์ให้ครบถ้วน
2.การใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน นอกจากสมรรถนะของรถที่จะต้องมีการตรวจสอบแล้ว การกำกับดูแลผู้ขับรถให้ใช้อุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของที่บรรทุก ตกหล่น รั่วไหล หรือปลิวไปจากรถ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการขนส่งเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบถึงประชาชนที่ร่วมขับขี่ บนท้องถนน
3. การส่งเสริมและให้ความรู้ มุ่งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ขับรถ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความจำเป็นและประโยชน์ของการปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการขนส่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน โดยมีกิจกรรม เช่น การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ช่วงหน้าเทศกาล ที่จะจัดขึ้นในทุกๆปี
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ กนอ.จะเข้าไปดูแลด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงระบบการจราจรและความปลอดภัยในพื้นที่แต่ละนิคมอุตสาหกรรม มาตรฐานของระบบตู้คอนเทนเนอร์ที่จะต้องเข้มงวดตรวจสอบการใช้อุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า (Twist-Lock) ป้องกันความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุตู้คอนเทนเนอร์หล่นจาตัวรถ และรถบรรทุกที่จะต้องมีการตรวจสอบความแข็งแรงและน้ำหนักอย่างเป็นประจำทั้งจากสถานประกอบการ จุดชั่งน้ำหนักและเจ้าหน้าที่ของแต่ละนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงการดูแลการขนส่งจากภายนอกที่เข้ามายังนิคมฯ ที่จะต้องมีมาตรฐานเดียวกันกับระบบภายในนิคมฯ นอกจากนี้ยังมีการดูแลด้านระบบสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกสบายกับการขนส่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 เป็นต้นไป นายอัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 02 2530561 หรืออีเมล investment.1@ieat.mail.go.th