กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ซีอาร์ซี ไทวัสดุ
บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ประกาศรีแบรนด์ "โฮมเวิร์ค" 3 สาขาสู่แบรนด์ใหม่ "บ้านแอนด์บียอนด์" โมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านแนวใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค 4.0 หลังทดลองเปิด "บ้านแอนด์บียอนด์" สาขาเชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ประสบผลสำเร็จยอดขายเพิ่ม 20 % พร้อมเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขา ในอีก 5 ปี รับตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้านที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าปีนี้โต 3.6% มีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาท ชูจุดแข็งเป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน "BEYOND EXPECTATION" ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยสินค้าคุณภาพดี หลากหลาย ราคาคุ้มค่า พร้อมโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหาเรื่องบ้านและบริการที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล กับบริการ vFIX ปรับปรุงซ่อมแซมบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ Contact Center 1308 พร้อมบริการช็อปออนไลน์ผ่านเว็บ 24 ชม. ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ตามแนวคิด OMNI Channel
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัล ผู้ดำเนินธุรกิจ "บ้านแอนด์บียอนด์" เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการทดลองเปิด "บ้านแอนด์บียอนด์" ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านรูปแบบใหม่ จำนวน 3 สาขา ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น และพัทยา ซึ่งสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจทำรีแบรนด์ดิ้ง (Re-Branding) "โฮมเวิร์ค" เป็น "บ้านแอนด์บียอนด์" โดยตั้งเป้าปรับเปลี่ยนหน้าร้านอีก 3 แห่ง ที่สาขาราชพฤกษ์ สาขารัตนาธิเบศร์ และสาขาภูเก็ต ให้เป็น "บ้านแอนด์บียอนด์" เพื่อให้มีสาขา "บ้านแอนด์บียอนด์" รวมจำนวนทั้งสิ้น 6 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ครบทุกภาคทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ทั้งนี้ จะขยายสาขา "บ้านแอนด์บียอนด์" เพิ่มเป็น 20 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายรวมของกลุ่มเซ็มทรัลโฮม กรุ๊ป 50,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี
"การรีแบรนด์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่มูลค่าตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เป็นโอกาสที่ดีหากบริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ตลาดได้ โดยในปี 2561 พบว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.6% หรือมูลค่าตลาดคาดการณ์ประมาณ 200,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดมาจากปัจจัยหนุนหลายประการ อาทิ การคาดการณ์ GDP ในปีนี้จะโต 4.8% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ได้รับการกระตุ้นจากโครงการภาครัฐ โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานเมกะโปรเจคต่าง ๆ การขยายตัวของสังคมเมือง ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ต่อครัวเรือน และจำนวนที่อยู่อาศัยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นใน 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดมีอายุน้อยลง และมีขนาดครอบครัวที่เล็กลง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร เมืองธุรกิจ เมืองท่องเที่ยว และเมืองอุตสาหกรรมโดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งปัจจัยด้านพฤติกรรมการซื้อของตกแต่งบ้านมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคมีความความต้องการที่หลากหลายเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงประเทศไทยกำลังย่างเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้า บริการ และข้อมูลที่รวดเร็ว ตอบสนองได้อย่างฉับไว ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีช่องทางของ Social Media ที่เป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า
อย่างไรก็ดีปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสรีแบรนด์ "โฮมเวิร์ค" เป็น "บ้านแอนด์บียอนด์" Home Improvement Store ที่เป็นโมเดลธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านเทรนด์ใหม่ โดยวางตำแหน่งของแบรนด์ให้เป็นศูนย์รวมสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ที่ให้ทุกอย่างมากกว่าแค่เรื่องบ้าน "BEYOND EXPECTATION" ด้วย 4 หัวใจหลัก คือ สินค้าที่มีสไตล์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ราคาคุ้มค่าจับต้องได้ มีโซลูชั่นที่ช่วยแก้ทุกปัญหา ทั้งการซ่อมแซมหรือปรับปรุงบ้าน และบริการที่ครบทุกความต้องการ ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค 4.0 ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตร.ม./สาขา พร้อมด้วยสินค้าคุณภาพกว่า 20,000 รายการ โดยมีรูปแบบการจัดเรียงสินค้าที่ต่อเนื่องกัน ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น" นายสุทธิสารกล่าว
นายสุทธิสารกล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งใน Pain point ของลูกค้า คือ เรื่องการซ่อมแซมบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ "บ้านแอนด์บียอนด์" จึงเปิดบริการ vFIX บริการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ติดตั้ง เปลี่ยนหรือย้ายจุดอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน จากช่างผู้เชี่ยวชาญผ่านการทดสอบตามมาตรฐานกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมรับประกันผลงานนานสูงสุด 180 วัน ในราคาที่จับต้องได้ ผ่าน Contact Center 1308 เพื่อบริการลูกค้าฉับไว โดยจะเริ่มให้บริการ vFIX ภายใน 31 สิงหาคม 2561 และ vFIX Application ในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.baanandbeyond.com เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไร้รอยต่อด้วยการเชื่อมโยงช่องทางหน้าร้าน กับออนไลน์ ตามแนวคิด OMNI Channel ภายในเดือนกันยายน 2561
นายสุทธิสารกล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และเป็นการฉลองเปิดตัว "บ้านแอนด์บียอนด์" อย่างเป็นทางการ บริษัทฯ กำหนดจัดงาน baan & BEYOND Expo 2018 งานมหกรรมสินค้าตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี พร้อมสินค้าราคาลดสูงสุด 80% จากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ รวมทั้งกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขายพิเศษมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 7 ตุลาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา Hall 101-104