กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
อีกความมุ่งมั่นของเด็กหนุ่ม "เอิร์ท" นายธนาคาร ทองสุข นักศึกษาสาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี"หนุ่มวินมอเตอร์ไซด์ ย่านพรธิสารคลองหก ที่มีความฝันในเรื่องของการศึกษา โดยมีความคิดว่า เรียนจบชั้น ม.6 ทำงานในระดับชั้น ม.6 ถ้าเรียนจบระดับปริญญาตรีได้ทำงานและได้เงินเดือนสูงๆ และสามารถนำเงินมาจุนเจือครอบครัว ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางให้ตนเองได้มีโอกาสสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในที่สุดความฝันของหนุ่มวินมอไซด์เป็นจริง เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ณ หอประชุมใหญ่ มทร.ธัญบุรี
"เอิร์ท" เล่าว่า ตนเองได้เลิกขับวินมอเตอร์ไซด์แล้ว ปัจจุบันตนเองทำงานที่ Tops supermarket เนื่องจากตอนเรียนในระดับปริญญาตรี เป็นนักศึกษาทุนเซ็นทรัล โครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง มทร.ธัญบุรี และบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เรียนฟรีตลอดหลักสูตร หลังเรียนจบต้องทำงานในเครือเซ็นทรัล 2 ปี กว่าที่ตนเองจะมีวันนี้ ตนเองต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย ด้วยทางบ้านมีปัญหาในเรื่องหนี้สิน หลังจบชั้น ป.6 พ่อแม่ให้ตนเองบวชเรียนในช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเตรียมพุทธศาสตร์ จ.ปราจีนบุรี เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หลังจากชั้น ม.3 มาศึกษาต่อที่โรงเรียนปทุมวิไล จ.ปทุมธานี จนจบ ม.6 ตอนเรียนมัธยมปลายต้องทำงานพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสริฟ์ที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อหาเงินเรียน
หลังจบชั้น ม.6 สอบตรงเข้าศึกษาที่สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สอบติดแต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม จนวินาทีสุดท้าย ตนเองได้หาข้อมูลทุนการศึกษาในการเรียน จึงสอบเข้าเรียนสาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี (ทุนเซ็นทรัล) เพราะเรียนฟรีตลอดหลักสูตร ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวมองเห็นโอกาสในการได้ฝึกงานจริงในเครือเซ็นทรัล ได้เบี้ยเลี้ยงจากการฝึกงาน รวมถึงเมื่อเรียนจบยังมีงานทำแน่นอน ซึ่งลดความเสี่ยงในการตกงานไปในตัว โดยทุกวันจะมีเรียนเพียง 3 วัน และทำงานอีก 3 วัน วันละ 8 ชั่วโมง ได้วันละ 300 บาท เดือนละประมาณ 3,000 บาท จากโครงการ
โดยเงินที่ได้มา ตนเองต้องนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าครองชีพที่สูง เงินที่ได้มาบางเดือนก็พอบางเดือนก็ขาดมือ บางวันมาเรียนมหาวิทยาลัยไม่มีเงินมามหาวิทยาลัย จุดเปลี่ยนหรือว่าความโชคชะตาฟ้าลิขิต เหตุการณ์วันนั้นตนเองจำได้ไม่ลืม "ระหว่างที่นั่งทำการบ้านที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ตนเองรู้สึกหิวข้าวมาก เพราะว่าไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เช้า โดยทางห้องสมุดของมหาวิทยาลัยมีการจัดกิจกรรมและมีข้าวกล่องเหลือ ผมจึงเดินเข้าไปขอข้าวป้าทิพย์ซึ่งเป็นแม่บ้านกิน ป้าทิพย์ให้ข้าวกล่องผมมา 3 กล่อง" ระหว่างที่นั่งกินข้าวตนเองและป้าทิพย์ได้พูดคุยกัน ป้าทิพย์จึงแนะนำให้รู้จักกับป้าตุ้ม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ซึ่งญาติของป้าตุ้มคือป้าภา เป็นเจ้าของวินมอเตอร์ไซด์ ป้าตุ้มจึงพาตนเองไปหาป้าภา โดยป้าภาได้ให้เสื้อ
วินมอเตอร์ไซด์ฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มาขับวินมอเตอร์ไซด์ที่วิน เพื่อหารายได้ระหว่างเรียน วันไหนไม่มีเรียน ไม่ต้องไปทำงาน มาขับวินมอเตอร์ไซด์ ก่อนเข้าเรียน 08.00 – 09.00 น. หรือเวลาหลังเลิกเรียนและเลิกงาน 16.30 – 22.00 น. มาขับวินรายได้ประมาณวันละ 200 – 300 บาท หลังหักค่าน้ำมัน เวลาส่วนใหญ่ตนเองอยู่กับการทำงานเพื่อหาเงินมาส่งตนเองเรียน "ที่ตนเองไม่กู้ กยศ.เรียน เพราะว่าเห็นพ่อแม่เป็นหนี้แล้วทุกข์ ต้องหาเงินมาใช้หนี้ในแต่ละเดือนลำบากที่สุด" ตนเองจึงสู้หางานทำเพื่อหาเงินมาส่งตนเองเรียน ตัดการใช้หนี้ในอนาคต
เกรดเฉลี่ยจบอยู่ที่ 2.1 ตนเองต้องทำงานหนัก พร้อมทั้งพยุงการเรียนไปเรื่อยๆ หลังเลิกเรียนต้องทำงาน ไม่มีเวลาไปเที่ยวไปกินกับเพื่อน ช่วงชีวิตสนุกในวัยรุ่นอาจจะไม่มี มีเพียงประสบการณ์จากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ทไพม์ในโครงการทุนเซ็นทรัล สอนประสบการณ์ในเรื่องการขายการตลาด การขับวินมอเตอร์ไซด์ สอนให้รู้จักความอดทน อาชีพทุกอาชีพมีเกียรติ ถ้าอาชีพที่ทำนั้นทำด้วยความสุจริตใจ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ตนเองจะเอาเสื้อวินมอเตอร์ไซด์ไปคืนป้าพา เพื่อให้ป้าภานำไปให้กับนักศึกษาคนต่อไปที่ได้รับโอกาสจากป้าพา จนทำให้ตนเองมีรายได้นำเงินมาเรียนจนจบปริญญาตรี สุดท้ายนี้ผมอยากขอบพระคุณ ป้าทิทย์ ป้าตุ้ม ป้าพา พี่เดือน พี่นาจ ที่ดูแลตนเองตลอดระยะเวลาที่ตนเองขับวินมอเตอร์ไซด์
"ผมไม่อิจฉาเพื่อนในห้องเรียน ที่ไม่ต้องทำงาน มีเงินเหลือกินเหลือใช้ ผมคิดเสมอว่าในอดีตผมคงทำบุญทำทานมาน้อย เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวหวงแหน ไม่รู้จักให้ในอดีตชาติ ชาตินี้จึงลำบากไม่มีเงิน อย่างที่ว่าต้นทุนชีวิตของคนเราต่างกัน ขอเพียงมีความขยัน ถ้าไม่ขยันก็อยู่ที่เดิม ความขยันสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้ มุ่งมั่งตั้งใจ ความสำเร็จรออยู่ปลายทางฝัน เช่นเดียวกับตนเองที่สามารถเอาชนะอุปสรรคในชีวิต คว้าปริญญาใบแรกของครอบครัว ภูมิใจที่สุดในชีวิต"
ทางด้านนางชนิดา บุรานนท์ หรือ ป้าพา เล่าว่า เด็กดีและมีพฤติกรรมดีควรได้รับโอกาส การช่วยเหลือคน คือความสุขของตนเอง ชีวิตของน้องเอิร์ทน่าสงสาร จึงอยากช่วยเหลือ การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการมอบโอกาสทางการศึกษา น้องหาเงินนำรายได้มาใช้จ่ายในการเรียน ดีใจที่เห็นถึงความสำเร็จในครั้งนี้ สำเร็จการศึกษาตามความฝันที่ได้ตั้งไว้ หลังจากที่เอิร์ทเอาเสื้อวินมาคืน จะนำเสื้อวินไปมอบโอกาสให้น้องอื่นต่อไป