กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.20-1,207.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,750 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,750 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.56 น. ของวันที่ 30/08/61)
แนวโน้มวันที่ 31 สิงหาคม 2561
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับแคนาดามีแนวโน้มเป็นมิตรมากขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์กอบกู้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า)ระดับไตรภาคี ซึ่งน่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ หลังสหรัฐระบุว่าบรรลุข้อตกลงกับเม็กซิโก ซึ่งกดดันให้เกิดแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ทั้งนี้ดอลลาร์ร่วงลงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระตุ้นให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุล เคลื่อนไหวใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ และถูกกดดันเพิ่มเติ่มจากการทะยานขึ้นของปอนด์สู่จุดสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ หลังความวิตกจากกรณีที่อังกฤษอาจจะออกจากสหภาพยุโรป(EU)โดยปราศจากข้อตกลงใดๆได้เริ่มบรรเทาลง เมื่อนายมิเชล บาร์นิเยร์ ส่งสัญญาณท่าทีที่ผ่อนปรนต่ออังกฤษในการเจรจาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ เพราะการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2 ปีนี้ เผยให้เห็นว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐได้รับการทบทวนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.2% ในไตรมาสดังกล่าว ซึ่งเป็นการทำผลงานดีที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ประกอบกับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทขยายการปรับขึ้นในวันพุธ โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 นอกจากนี้นักลงทุนจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลี เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ แต่อาจเริ่มการซ้อมรบกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยทำ ถ้าการเจรจาเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือยังคงไม่มีความคืบหน้า เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าแนวโน้มราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีบริเวณแนวต้านที่ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,199-1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการการเข้าซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,194 (18,450บาท) 1,182 (18,250บาท) 1,171 (18,100บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,850บาท) 1,229 (19,000บาท) 1,238 (19,150บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,194 (18,610บาท) 1,182 (18,430บาท) 1,171 (18,260บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,980บาท) 1,229 (19,160บาท) 1,238 (19,300บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999