กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน ลั่น ล้างหนี้กองทุนน้ำมันร่วม 9 หมื่นล้านบาทเรียบร้อย ชี้ใช้หนี้สำเร็จเร็วก่อนกำหนดร่วม 2 ปี จากนโยบายเร่งชำระหนี้ ช่วงราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง และไม่อุดหนุนราคาน้ำมันเพิ่ม ย้ำได้ผลสองต่อ แถมประชาชนหยุดใช้พลังงานฟุ่มเฟือย เตรียมโอนเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงาน สะสมเพื่อใช้ในช่วงฉุกเฉิน และใช้ในการพัฒนาระบบขนส่งทางราง
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ธ.ค. 2550 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีหนี้สินสุทธิจำนวน 61ล้านบาท ดังนั้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2550 นี้ การชำระหนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เกิดจากการจ่ายเงินชดเชยราคาน้ำมันสะสมตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2547 ถึงวันที่ 13 ก.ค. 48 จำนวน 92,054 ล้านบาท จะสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะจากช่วงการดำเนินงานของรัฐบาลปัจจุบัน (ต.ค. 49 - ปัจจุบัน) ที่มีการชำระหนี้ทั้งหมดจำนวน 50,287 ล้านบาท ซึ่งการชำระหนี้กองทุนน้ำมันเสร็จสิ้นทั้งหมดดังกล่าว สามารถทำได้รวดเร็วเกินกว่ากำหนดถึง 2 ปี จากเดิมที่วางไว้ในช่วงปี 2553
ทั้งนี้ สาเหตุที่กองทุนน้ำมันฯ สามารถชำระหนี้ได้รวดเร็วกว่ากำหนดนั้น เกิดจากการนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่ได้ทยอยปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุน โดยใช้จังหวะเวลาที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง เพื่อมิให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศสูงขึ้น ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 2,299 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 4,156 ล้านบาทต่อเดือน
สำหรับแนวทางการบริหารเงินจากกองทุนน้ำมันฯ เบื้องต้นจะปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 50 โดยกองทุนน้ำมันฯ จะยังคงเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าน้ำมันเข้ากองทุน ฯ และจะโอนเงินให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานตามแผนงานปกติ 18 สต.ต่อลิตร รวมทั้งจะโอนเงินเพิ่มเติมในอัตรา 50 สต.ต่อลิตร ซึ่งจะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ เพื่อนำไปสนับสนุนการลงทุนในโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ เงินทีเรียกเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน และกองทุนอนรักษ์พลังงาน จะมีส่วนหนึ่งเพื่อเก็บสะสมไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท (คาดว่าจะสะสมได้ครบในช่วงเดือนต.ค. 51) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในภาวะฉุกเฉิน ที่อาจจำเป็นต้องมีการตรึงราคาน้ำมันในช่วงสั้น ๆ และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซลและเชื้อเพลิงสะอาดอื่นๆ
อนึ่ง การส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ของราคาน้ำมันชนิดต่างๆ เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 95 ที่ระดับ 4 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ที่ระดับ 3.30 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ที่ระดับ 30 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (กองทุนจ่ายชดเชย) ที่ระดับ 20 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันดีเซล ที่ระดับ 70 สตางค์ต่อลิตร และไบโอดีเซล B5 กองทุนจ่ายชดเชย ที่ระดับ 10 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งจะเป็นผลให้หากรัฐบาลใหม่จะปรับลดราคาน้ำมันดีเซล จะปรับลดได้เพียง 2 สตางค์ต่อลิตร เพราะจะต้องส่งให้กองทุนอนุรักษ์พลังงานที่ระดับ 68 สตางค์ต่อลิตร ตามมติกพช. ดังกล่าว