เดลล์เปิดตัว Latitude XT แท็บเล็ตพีซีที่บางและเบาที่สุด มาพร้อมกับระบบจอสัมผัสแบบใหม่

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday December 25, 2007 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
Dell Latitude XT แท็บเล็ตขนาด 12.1 นิ้วน้ำหนักน้อยกว่า 1.8 กิโลกรัม พร้อมด้วยเทคโนโลยีจอสัมผัส Capacitive รูปแบบใหม่ที่พลิกโฉมหน้าวงการแท็บเล็ตอย่างแท้จริง
ตัวเครื่องมีขนาดบางที่สุด และเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาด
หน้าจอเสริมพิเศษที่ให้ความชัดเจนที่สุดแม้ทำงานภายใต้แสงอาทิตย์
ระบบฮาร์ดแวร์ที่รองรับเทคโนโลยีในอนาคตอย่างฟังก์ชันมัลติทัช
เดลล์นำเสนอมาตรฐานใหม่สำหรับแท็บเล็ตพีซี (Tablet PCs) ด้วย Latitude XT แท็บเล็ตพีซีขนาด 12.1 นิ้ว ที่บางและเบาที่สุดในตระกูลแท็บเล็ตพีซีที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังให้ความสว่างของหน้าจอแสดงผลได้ดีที่สุดด้วยภายใต้แสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 74,653 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าขนส่ง) และเดลล์จะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อ Latitude XT ได้ตั้งแต่ช่วงสิ้นปีนี้เป็นต้นไป
Latitude XT มีน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 1.63 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นแท็บเล็ตพีซีน้ำหนักเบาที่สุดที่มาพร้อมกับปากกาสไตลัส (stylus) และหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ซึ่งสามารถรับรู้การสัมผัสของนิ้วมือได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แรงกด นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีมัชติทัช (Multi-touch) ที่ให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยการใช้นิ้วมือหลายนิ้วพร้อมกัน เช่น การขยายและเปลี่ยนตำแหน่งภาพ เป็นต้น สำหรับคุณสมบัติด้านระบบจอภาพสัมผัสของ Latitude XT ที่น่าสนใจประกอบด้วย:
ความแม่นยำและความเร็วในการตอบสนองของระบบสัมผัสซึ่ง Latitude XT ทำได้เร็วกว่า Lenovo X61T อย่างเห็นได้ชัด (1)
เทคโนโลยีตรวจจับและปฏิเสธการสัมผัสด้วยฝ่ามือแบบไม่ตั้งใจ ช่วยลดความผิดพลาดและทำให้การใช้งานปากกาสไตลัสเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
เทคโนโลยีดิจิไทเซอร์บน Latitude XT มีความทนทานมากกว่าเทคโนโลยี Resistive แบบเก่าของผลิตภัณฑ์คู่แข่งกว่า 10 เท่า
ปากกาสไตลัสที่ง่ายต่อการดูแลรักษา ไม่ต้องใช้แบตเตอรี และมาพร้อมกับยางลบและฟังก์ชันสำหรับคลิ้กเมาส์ในตัว
"เรารับฟังและมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าตลอดมา" อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด "ก่อนหน้านี้ลูกค้าต้องเลือกระหว่างฟังก์ชันด้านแท็บเล็ตกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้ง่าย แต่ด้วยเทคโนโลยีจอสัมผัสแบบ Capacitive บน Latitude XT ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในการสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับแท็บเล็ตพีซี ช่วยดึงประโยชน์ของแพลตฟอร์มแท็บเล็ตออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ลูกค้าจัดการและควบคุมการใช้งานได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น"
อุปกรณ์แท็บเล็ตส่วนใหญ่ในตลาดยังคงใช้หน้าจอสัมผัสแบบ Resistive ที่ต้องอาศัยแรงกดในการสั่งงานและโต้ตอบกับระบบ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ มีความแม่นยำและความทนทานต่ำกว่าเทคโนโลยี Capacitive แบบใหม่ อีกทั้งยังไม่รองรับระบบสัมผัสแบบมัลติทัชด้วย นอกจากนี้ ลูกค้าจำนวนมากที่เคยใช้แท็บเล็ตระบบ Resistive ซึ่งสนับสนุนการสั่งงานทั้งผ่านปากกาสไตลัสและระบบสัมผัสมักจำเป็นต้องปิดคุณสมบัติประการหลังทิ้งไปเพราะอุปกรณ์เหล่านั้นมักขาดเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับการสัมผัสโดยฝ่ามือแบบไม่ตั้งใจ
แท็บเล็ตพีซีจากเดลล์ช่วยผลักดันตลาดให้เติบโต
"แผนของเดลล์ในการก้าวเข้าสู่ตลาดแท็บเล็ตพีซีจะช่วยโปรโมตให้มีจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวมากขึ้น และทำให้แท็บเล็ตกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม" ดอจ เบลล์ นักวิเคราะห์จากไอดีซี กล่าว
Latitude XT ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคตด้วยความสามารถในการรองรับระบบมัลติทัช ซึ่งพร้อมทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นยอดเพื่อทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันต่างๆ ที่จะดึงประโยชน์ของมัลติทัชออกมาใช้งานให้มากขึ้น
"การผสมผสานเทคโนโลยี DuoSense ลงบน Latitude XT ทำให้เดลล์กลายเป็นผู้ผลิตชั้นนำในตลาดแท็บเล็ตพีซี" อะมิไฮ เบน-เดวิด ซีอีโอของ N-trig กล่าว "ลูกค้าที่ได้ลองใช้ Latitude XT จะประทับใจกับระบบสัมผัสที่ไม่ต้องออกแรงกด พร้อมด้วยการทำงานของปากกาสไตลัสที่มีความแม่นยำสูง พลิกโฉมหน้าการใช้งานแท็บเล็ตพีซีโดยสิ้นเชิง รับรองว่าถ้าได้ลองใช้แล้ว จะไม่อยากกลับไปใช้เทคโนโลยีจอสัมผัสแบบเดิมอีกต่อไป"
นอกจากนี้ เดลล์ยังคงให้ความสำคัญกับเป้าหมายในการเป็น "บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด" ด้วยการนำเสนอคุณสมบัติที่ผ่านมาตรฐาน Energy Star 4.0 บน Latitude XT และจะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2551
สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ของ Latitude XT ประกอบด้วย:
อุปกรณ์เสริมเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับเชื่อมต่อกับตัวแท็บเล็ตพีซีเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและรองรับสื่อบันทึกข้อมูลแบบออพติคอล
คีย์บอร์ดเต็มรูปแบบพร้อมด้วยระบบสั่งงานสองรูปแบบ
ความจุสูงสุด 64 กิกะไบต์สำหรับสื่อเก็บข้อมูลแบบ Solid State Drive และสูงสุด 120 กิกะไบต์สำหรับฮาร์ดดิสก์ปกติ (2)
แบตเตอรีเสริมที่สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 9.5 ชั่วโมง (3)
โพรเซสเซอร์ Intel Core 2 Solo หรือ Duo ULV
ระบบประมวลผลกราฟิกจาก ATI Radeon X1250 UMA (4)
บริการหลังการขายหลากหลายรูปแบบที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย
เกี่ยวกับเดลล์
เดลล์รับฟังความต้องการของลูกค้าและส่งมอบนวัตกรรมเทคโนโลยีและการบริการที่มีค่าให้กับลูกค้า ภายใต้การทำตลาดผลิตภัณฑ์และบริการสู่ลูกค้าทั่วโลกด้วยโมเดลการขายตรง ทำให้ปัจจุบันเดลล์เป็นผู้นำในด้านระบบและบริการระดับโลก เดลล์ได้รับการจัดอันดับที่ 34 จากฟอร์จูน 500 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดลล์ ผลิตภัณฑ์ และการบริการ เยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.dell.com หากต้องการสื่อสารกับเดลล์โดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถติดต่อได้ที่ www.dell.com/conversations สำหรับข้อมูลข่าวสารจากเดลล์ เยี่ยมชมได้ที่ www.dell.com/RSS
(1) ที่มา: Tablet Benchmark Report ซึ่งทดสอบโดย Human Interfaces, Inc ให้การสนับสนุนโดยเดลล์ เมื่อเดือนตุลาคม 2550
(2) กิกะไบต์ มีค่าเท่ากับ 1 พันล้านไบต์ และเทราไบต์มีค่าเท่ากับ 1 ล้านล้านไบต์; ขนาดพื้นที่จริงอาจแตกต่างไปตามซอฟต์แวร์ที่ติดมากับระบบและลักษณะของระบบปฏิบัติการ ซึ่งโดยมากจะมีเนื้อที่เหลือน้อยกว่าที่ระบุไว้
(3) อายุการใช้งานแบตเตอรีอาจแตกต่างไปตามลักษณะการตั้งการ การใช้งาน และความผันแปรในการผลิต
(4) หน่วยความจำของระบบจำนวนหนึ่งอาจถูกใช้เพื่อรองรับการทำงานด้านกราฟิก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของหน่วยความจำระบบและปัจจัยอื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ