กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--สิงห์ เอสเตท
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัว โครงการ "สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส" ที่สุดแห่งความเอ็กซ์คลูซีฟของบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี่อย่างเป็นทางการด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 6 พันล้านบาท ในทำเลสุดศักยภาพบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว บนเนื้อที่โครงการกว่า 45 ไร่ ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง กับสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนเพียง25 หลัง ในราคาเริ่มต้น 245 ล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส" ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงห์ เอสเตท ในการก้าวขึ้นสู่การเป็น Leading Premier Brand อย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นการส่งมอบคุณภาพที่ประณีต พิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด สร้างคุณค่าที่ยั่งยืน ทั้งในเรื่องคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับผู้ที่อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของบริษัทที่ครอบคลุมทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ในระดับ luxury ถึง ultra-luxury อีกด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนี้เป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของที่อยู่อาศัยเพื่อความสุขครอบครัว และใส่ใจในองค์ประกอบไปจนถึงสภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่มของโครงการ "โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส คือโครงการแนวราบโครงการแรกของ สิงห์ เอสเตท มีมูลค่าโครงการสูงถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดเทียบกับโครงการระดับเดียวกัน และต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและให้การตอบรับเป็นอย่างดี" นายนริศกล่าว
นายนริศ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ Ultra Luxury นั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่ายังมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ สำหรับบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เองก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดเช่นกัน และเชื่อว่า โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส จะทำให้ บริษัทก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดที่พักอาศัยระดับบนสุดอย่างแท้จริง
ด้านนายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา และเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2559 ซึ่งความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น สวนทางกับ จำนวนซัพพลายในตลาดมีน้อย อีกทั้งส่วนมากโครงการในระดับราคานี้มักเป็นบ้านเดี่ยวแนวสูงที่อยู่ใจกลางเมือง หรือบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณชานเมือง ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนั้นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่และอยู่ในบริเวณรอบใจกลางเมืองจึงน่าจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มในจุดนี้ได้ "
สำหรับโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 45 ไร่ ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นทำเลที่เรียกได้ว่ามีศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯในขณะนี้ เพราะนอกจากจะเป็นย่านที่ใกล้เมือง มีสภาพแวดล้อมที่ดีแล้ว ยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงเรียนชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นทำเลที่การคมนาคมสะดวกเพราะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และมีแผนที่จะพัฒนารถไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย "เราใช้เวลาในการพัฒนาโครงการมานานเกือบ 4 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การทำ รีเสิร์ชกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อหาอินไซต์ว่าความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร ซึ่งเราพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างมาก มีประสบการณ์ในการซื้อและอยู่บ้านที่มีระดับราคาสูงหรือสร้างบ้านของตัวเองมาก่อนแล้วจึงค่อนข้างใส่ใจในเรื่องรายละเอียดที่ลึกซึ้ง และต้องการบ้านที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้จริงๆ นั่นเป็นที่มาของ "CONNOISSEUR OF PLEASANT LIVING"" หรือ "ลึกซึ้งถึงทุกรายละเอียดความสุข" ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของโครงการ เราจึงตั้งใจทำบ้านเดี่ยวที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนบ้านทั้งโครงการเพียง 25 หลัง โดยบ้านแต่ละจะปลูกสร้างอยู่บนที่ดินขนาดไม่น้อยกว่า 1 ไร่ พื้นที่กว่า 15 ไร่ที่เหลือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และด้วยปรัชญาของแบรนด์สันติบุรี คือ การผสมผสานระหว่างปรัชญาการใช้ชีวิต (Philosophy of Living) และปรัชญาของธรรมชาติ (Philosophy of Nature) บนความเชื่อที่ว่า คนเราอาจกำหนดธรรมชาติไม่ได้ แต่เราสามารถกำหนดสภาพแวดล้อมได้ เราจึงให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยสร้างทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมที่ดี ใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น การคัดเลือกสายพันธุ์ต้นไม้ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศ และฤดูกาลต่างๆ ให้ความสวยงาม ความร่มรื่นตลอดทั้งปี"
"สำหรับตัวบ้านเราไม่ได้มองแค่ความสวยงามภายนอกแต่เพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการให้บ้านเป็นบ้านที่อยู่สบายตลอดทั้งวันและทุกฤดูกาล เราจึงเลือกที่จะนำรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ LUXURY MODERN TROPICAL มาใช้กับโครงการนี้ เพราะเป็นการออกแบบที่เน้นความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีความทันสมัยและโก้หรู และมีความเหมาะสมกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศไทย บ้านทุกหลังหันหน้าทิศเหนือ-ใต้ มีการนำกระจกบานใหญ่พิเศษเข้ามาเป็นส่วนประกอบของบ้าน เพื่อเปิดรับความเป็นธรรมชาติเข้าสู่ภายใน ทำให้บ้านได้รับแดดและลมในเวลาที่เหมาะสม มีการระบายอากาศที่ดี เรียกได้ว่ามีทั้งความหรูหราและอยู่สบายในเวลาเดียวกัน ในส่วนของฟังก์ชั่นภายในบ้าน เรามีแบบบ้านมาตรฐาน 3 แบบ มีคาแร็คเตอร์ของฟังก์ชั่นที่ต่างกัน ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการบ้านแบบไหน บนที่ดินแปลงไหน นอกเหนือจากนั้นหากลูกค้าต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในจากฟังก์ชั่นมาตรฐาน เราก็ยินดีจะทำให้โดยขอควบคุมความสวยงามภายนอก เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านที่ตรงกับความต้องการแต่สิ่งแวดล้อมภายในโครงการยังสวยงามอยู่ อันนี้ถือว่าเป็นความแตกต่างที่เราเชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าที่จะซื้อบ้านในระดับราคานี้"
อีกหนึ่งสิ่งที่ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ให้ความสำคัญก็คือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นไม้สักจากป่าปลูกที่มีความยั่งยืน หินอ่อนนำเข้าจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ล้วนเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก "นอกเหนือจากตัวบ้าน การดูแลในเรื่องความปลอดภัย และการให้บริการถือเป็นอีกเรื่องที่เราใส่ใจ เราได้จัดเตรียมระบบรักษาความปลอดภัยที่มีคุณภาพสูง รวมถึงเจ้าหน้าที่ Concierge เพื่อให้บริการผู้อยู่อาศัยตลอด 24ชั่วโมงอีกด้วย" นายณัฐวุฒิกล่าว
"เรามั่นใจว่า สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชัวรี่ ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สามารถสร้างความแตกต่างและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงสามารถสร้างสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง" นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
สนใจนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ได้ที่ 1221 หรือ www.santiburitheresidences.co.th
เกี่ยวกับ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน (Premier property development and investment holding company) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักปรัชญาการเติบโตอย่างยั่งยืน รักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตด้วยพอร์ทการลงทุนที่มีความสมดุลและหลากหลายจากการพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่สำนักงานให้เช่า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทลงทุนและโฮลดิ้งระดับโลก ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนำเสนอคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม