กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 03 กันยายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,195.30-1,203.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,740 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,810 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.15 น. ของวันที่ 03/09/61)
แนวโน้มวันที่ 04 กันยายน 2561
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาสิ้นสุดลงโดยปราศจากข้อตกลง ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องคงแคนาดาไว้ในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) ทั้งนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐเตือนว่า ข้อตกลงกับเม็กซิโกจะเผชิญความลำบากในการผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส ยกเว้นว่าจะมีแคนาดารวมอยู่ด้วย โดยพวกเขากล่าวว่า ต้องได้รับแรงหนุนจากพรรคเดโมแครตเพื่อผ่านข้อตกลงที่อยู่ในระดับทวิภาคีเท่านั้น จากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ หนุนให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญปรับขึ้นต่อเนื่อง จนราคาทองคำอ่อนตัวลง ซึ่งสหรัฐและแคนาดาจะเปิดการเจรจาใหม่ในวันพุธที่จะถึงนี้ จากความขัดแย้งทางการค้าเพิ่มขึ้นเมื่อการเจรจาการค้าสหรัฐ-แคนาดาล้มเหลว ส่งผลให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาพร้อมที่จะเก็บภาษีใหม่ต่อจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีหลังจากการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนสิ้นสุดลงในวันที่ 5 กันยายน นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์ได้ขู่ที่จะถอนตัวจากองค์การการค้าโลก(WTO) ถ้า"WTO ไม่ทำการปฏิรูป" ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจจะบั่นทอนหนึ่งในรากฐานระบบการค้าโลกสมัยใหม่ อย่างไรก็ดีตลาดสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์นี้เนื่องในวันแรงงาน นักลงทุนบางรายชะลอการเข้าซื้อทองคำ ขณะที่สภาพคล่องในตลาดอยู่ในระดับเบาบาง บรรยากาศโดยรวมมีความระมัดระวัง ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทไทยปรับแข็งค่าขึ้น โดยในเดือนสิงหาคมเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราการแข็งค่ามากที่สุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ค่าเงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าขึ้นได้ต่อในช่วงต้นสัปดาห์ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าแนวโน้มราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยบริเวณแนวต้าน 1,214-1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองโดยให้ดูว่า ราคาจะผ่านแนวต้านบริเวณ 1,214-1,217 ดอลลาร์ต่อได้หรือไม่ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป แต่หากไม่ผ่าน ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงมา ซึ่งหากไม่หลุดแนวรับแนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม โดยให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,194-1,182 ดอลลาร์ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งประเมินว่าราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,194 (18,450บาท) 1,182 (18,250บาท) 1,171 (18,100บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,800บาท) 1,229 (19,000บาท) 1,238 (19,150บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,194 (18,590บาท) 1,182 (18,400บาท) 1,171 (18,230บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,950บาท) 1,229 (19,140บาท) 1,238 (19,280บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999