บล.แอพเพิล เวลธ์คาดSETก.ย. Sideway ในกรอบ1,680 – 1,730 จุด ชี้ความชัดเจนการเลือกตั้งใหม่ปี 62 เป็นปัจจัยหนุน แนะซื้อ AMATA, WHA, CK, STEC, BEM,BBL, BAY, KTB, PLANB เข้าพอร์ต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 4, 2018 12:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ย.-- บล.แอพเพิล เวลธ์ คาด ก.ย. นี้ ดัชนี SET ยัง Sideway ในกรอบ 1,680 – 1,730 จุด รอประเมินความเสี่ยงสหรัฐขึ้นภาษีจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ แย้มความชัดเจนการเลือกตั้งใหม่ปี 62 เป็นปัจจัยบวกหนุน แนะซื้อหุ้นรับอานิสงส์เลือกตั้ง ชู AMATA, WHA, CK, STEC, BEM,BBL, BAY, KTB, PLANB แจ่ม นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ย.61 ยังคงผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงหลัก 2 ปัจจัย คือ MSCI จะมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีน A-Share ในดัชนี MSCI EM Index จาก 0.37% เป็น 0.74% และ สหรัฐอาจจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีกล็อตมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ หลังการ Public Hearing วันที่ 6 ก.ย. นี้ ซึ่งจีนอาจจะตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวประเมินดัชนี SET มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,680 จุด แนวต้าน 1,730 จุด ส่วนประเด็นการเมืองนั้นหาก พ.ร.บ. การเลือกตั้งสส. สว. ประกาศใช้ได้ในเดือน ก.ย. นี้ จะส่งผลให้ Road Map การเลือกตั้งใหม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง ก.พ. – มิ.ย.ปีหน้า และน่าจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์การลงทุน และเลือกตั้ง เช่น AMATA, WHA, CK, STEC, BEM,BBL, BAY, KTB, PLANB " หากดัชนีฯสามารถผ่านแนวต้าน 1,730 จุด พร้อมปริมาณการซื้อขายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท จะเป็นสัญญาณยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 1,750 – 1,780 จุด แต่หากหลุดแนวรับ 1,680 จุด ต้องระวังการปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,640 – 1,660 จุด" นายอภิชัยกล่าวว่า สำหรับ ดัชนี SET ส.ค. ที่ผ่านมาทรงตัวเพิ่มขึ้น 1.16%จากเดือนก.ค.โดยได้แรงหนุนจากกำไร บจ.ครึ่งปีแรกที่ยังขยายตัว 7.61% ขณะที่ทั้งปีมีโอกาสขยายตัวได้ราว 9 – 10% ตามโมเมนตัมการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดเติบโตได้ราว 4.5%จากงวดเดียวกันปีก่อน จากแรงหนุนภาคส่งออกขยายตัว 10% การบริโภค ภาคเอกชนและการลงทุนรวมขยายตัว 4.1% และ4.4% ตามลำดับ ส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติไหล เข้าตลาดพันธบัตรใน ส.ค. ที่ผ่านมา ราว 6.9 หมื่นล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ