กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ
เมื่อมีปัญหาสายตา ไม่ว่าจะสั้น ยาว เอียง เป็นใครก็อยากแก้ไข ก็มันมองไม่ชัดนี่นา ทำอะไรก็ไม่สะดวก เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันของหลายๆ คน จึงต้องพึ่งพาแว่นสายตา คอนแทคเลนส์ ไปจนถึงทำเลสิค แต่ใครจะรู้บ้างว่าเงื่อนไขการจะรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ที่สมัยนี้กำลังฮอตกันมาก จะต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์สภาพตาก่อน ถึงจะทราบว่าจะรักษาได้หรือไม่ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถรักษาได้ หากตรวจพบว่ามีโรคกระจกตาบางชนิด หรือกระจกตามีปัญหา....ปัญหาที่ว่า จะมีอะไรบ้าง พญ.ปัจฉิมา จันทเรนทร์ จักษุแพทย์ TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ จะมาให้คำตอบในเรื่องนี้ค่ะ
ปัญหาของกระจกตาที่หากเป็นแล้ว ไม่สามารถรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ได้ จะแบ่งเป็น ไม่สามารถรักษาได้เลย และสามารถรักษาได้หากทำการรักษาโรคนั้นๆ มาแล้ว
-ปัญหากระจกตาที่เป็นแล้ว ไม่สามารถรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ได้เลย ได้แก่
1. ผู้ที่มีปัญหากระจกตาบางมากๆ หรือความหนาของกระจกตาไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับระดับความผิดปกติของสายตา แต่มีทางเลือก คือสามารถรักษาด้วยเลนส์เสริมได้
2. ผู้ที่มีปัญหากระจกตาย้วย หรือกระจกตาโก่ง (Keratoconus) เป็นความผิดปกติซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างภายในกระจกตา ทำให้กระจกตามีความโค้ง และโก่งตัวมากกว่าปกติ ร่วมกับมีการบางตัวของกระจกตา
-ปัญหากระจกตาที่เป็นแล้ว สามารถรักษาสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ได้ หากรักษาอาการปัญหาของโรคนั้นๆ มาแล้ว ได้แก่
1. โรคต้อเนื้อ หลังผ่าตัดลอกต้อเนื้อ 2 เดือน สามารถมาตรวจวิเคราะห์สภาพตา ก่อนทำการรักษาได้
2. กระจกตาไม่เรียบ ที่เกิดจากตาแห้ง
3. ความโค้งกระจกตายังไม่เหมาะสม เนื่องจากถอดคอนแทคเลนส์ยังไม่ครบระยะเวลาที่กำหนด หรือ ยังไม่เพียงพอ หรือความโค้งของกระจกตาอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติ มีภาวะสงสัยโรคกระจกตาโก่ง
เห็นได้ว่าผู้ที่มีปัญหากระจกตาบางชนิด ก็ยังมีหวัง เพราะมีโอกาสที่จะรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี LASIK, FemtoLASIK หรือ ReLEx ได้ แต่ที่สำคัญคือ ต้องผ่านการตรวจวัดและตรวจวิเคราะห์สภาพตาอย่างละเอียด เพื่อจักษุแพทย์จะประเมิน และแนะนำการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ