กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 05 กันยายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,190.60-1,195.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,670 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,690 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.21 น. ของวันที่ 05/09/61)
แนวโน้มวันที่ 06 กันยายน 2561
ความกังวลเกี่ยวกับการค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่การเจรจาระหว่างสหรัฐและแคนาดาในการเจรจาใหม่ ณ กรุงวอชิงตัน ในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า) ไม่มีสัญญาณว่าจะคลี่คลายลง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ยืนยันว่าแคนาดาจะไม่ประนีประนอมต่อข้อเรียกร้องสำคัญในการเจรจาระดับสูงกับสหรัฐเพื่อปรับปรุงข้อตกลงนาฟต้า แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ว่าจะเก็บภาษีรถยนต์ต่อแคนาดา หรือถอดแคนาดาออกจากข้อตกลงไตรภาคีดังกล่าว ยกเว้นว่าจะบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็ว ความขัดแย้งดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ทะยานขึ้น แตะจุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์จนราคาทองคำอ่อนตัวลงเคลื่อนไหวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนยังระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มภาษีครั้งใหม่ของสหรัฐต่อสินค้าจีนอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะมีการเปิดเผยหลังจากที่การรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนต่อข้อเสนอดังกล่าวสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐจาก ISM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปีในเดือนส.ค. โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งตัวเลขในเชิงบวกดันผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐขึ้นสู่จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ สนับสนุนแนวทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แนะนำติดตามรายงานการจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐของ ADP Employer Services เดือนส.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งหากบ่งชี้ว่าการขยายตัวของตำแหน่งงานยังแข็งแกร่งในระยะนี้ ก็จะสร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเมื่อราคาอ่อนตัวลงยังคงเห็นแรงเข้าซื้อทองคำเข้ามาพยุงราคาไว้ สอดคล้องกับข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) แสดงว่า อินเดียเพิ่มการถือครองทองคำ 6.8 ตัน สู่ 573.1 ตันในเดือนก.ค. 2561 ทั้งนี้ แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down ในทิศทางอ่อนตัวลง หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,200-1,202 และหากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้จะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆขยับขึ้นในลักษณะ Sideway down ในทิศทางอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,200-1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากทะลุไปได้จะเกิดแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการซื้อมาบริเวณ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,182 (18,350บาท) 1,175 (18,200บาท) 1,160 (18,000บาท)
แนวต้าน 1,202 (18,700บาท) 1,214 (18,850บาท) 1,228 (19,100บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,182 (18,490บาท) 1,175 (18,380บาท) 1,160 (18,150บาท)
แนวต้าน 1,202 (18,810บาท) 1,214 (18,990บาท) 1,228 (19,210บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999