กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--คาริสม่า มีเดีย
วันนี้ (5 กันยายน 2561) ที่กระทรวงพลังงาน มีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี ดร. ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาวาระสำคัญ ๆ ดังนี้
- จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ถึงระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ประกอบค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอยู่ในระดับ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่มีแนวโน้มสูงมากถึงระดับ 30 บาท/ลิตร
- กระทรวงพลังงาน ได้มีการเตรียมพร้อมรองรับไม่ให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซลอย่างมากนี้ กระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ให้แก่กลุ่มรถบรรทุกสินค้า และรถโดยสารสาธารณะ ในราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลเกรดทั่วไป ในอัตรา 3 บาท/ลิตร ซึ่งในสถานการณ์ที่คาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะยังคงอยู่ในระดับสูง (80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) อีกระยะหนึ่ง กระทรวงพลังงานจึงได้จัดให้กรมธุรกิจพลังงานทำโครงการเผยแพร่และให้คำแนะนำผู้ประกอบการกลุ่มรถบรรทุกสินค้า และรถโดยสารสาธารณะ ที่ยังไม่ได้ใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในการปรับสภาพและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้พร้อมเติมน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 โดยติดต่อได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน โทร 0 2794 4011
- ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการค้าน้ำมันได้ให้ความร่วมมือในการรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้สูงโดยได้ปรับลดในส่วนของค่าการตลาด ลงอยู่ในระดับต่ำ ที่ 1.26 บาท/ลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล และเพื่อให้สามารถรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกระดับไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล กบง. จึงมีมติกำหนดวงเงินการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 0.30 บาท/ลิตร โดยให้ สนพ. ประกาศอัตราชดเชยตามความเหมาะสม
- การรักษาเสถียรภาพราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG
- ณ ปัจจุบันราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวในตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในระดับราคาสูง (CP = 617.50 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน) และกระทรวงพลังงานได้มีนโยบายรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ในประเทศที่ 363 บาท/ถัง 15 กก. ทำให้มีการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กองทุน#2) ชดเชยราคาที่ระดับ 6.48 บาท/กก. ส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลออกสุทธิ 804 ล้านบาท/เดือน
- กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 2 กันยายน 2561 มีฐานะสุทธิ 26,022 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 29,359 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG –3,337 ล้านบาท
- กบง. จึงเห็นชอบใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ในประเทศที่ 363 บาท/ถัง 15 กก. โดยให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท และมอบหมายให้สถาบันบริการกองทุนพลังงาน (สบพน.) จัดทำรายงาน รายรับ/รายจ่าย และฐานะกองทุนน้ำมันฯ ของก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG เพื่อรายงาน กบง. ทราบทุกเดือน และเห็นชอบปรับสูตรราคาอ้างอิงในการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ให้สะท้อนสภาพความเป็นจริงมากขึ้น โดยให้ตัดในส่วนของค่าคลังนำเข้า (Depot) 20 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ในการคำนวณสูตรราคาอ้างอิง