กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ จับมือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดอบรมการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลโคนมเพิ่มศักยภาพบริหารจัดการฟาร์มโคนม เน้นความทันสมัยพร้อมคำนวนแผนยุทธศาสตร์และการตลาดครบวงจรอย่างแม่นยำ หวังลดต้นทุน เพิ่มรายได้ เสริมแกร่งเกษตรกรให้มั่นใจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเลี้ยงโคนม และยกระดับอุตสาหกรรมนมไทยเทียบเท่าสากลภายใน 1 ปี
นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลโคนมเพิ่มศักยภาพบริหารจัดการฟาร์ม ของชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคตะวันออกและอีสานใต้ จำกัด ว่าปัจจุบันการเลี้ยงโคนมได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟาร์มโคนม ซึ่งมีโปรแกรมต่างๆที่เป็นแอปพลิเคชั่นในการบันทึกข้อมูล สามารถประมวลผลเกี่ยวกับโคนมรายตัวในด้านต่าง ๆ อาทิ อายุโค สายพันธ์ การผสมเทียม การคลอดนม และการรักษาอาการเจ็บป่วยของโค ขณะนี้มีเกษตรกรเป็นจำนวนมากที่ยังไม่สามารถใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฟาร์มได้ ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลโคนมไม่ครบถ้วน และส่งผลให้การบริหารจัดการฟาร์มโคนมไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะแต่ละฟาร์มจะมีโคนมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ประสิทธิผลกลับ ไม่เป็นไปตามแผนที่เกษตรกรต้องการอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม หากจัดการฟาร์มไม่เป็นระบบและทันท่วงที อาจส่งผลเสียหายในระยะยาว ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจดบันทึกข้อมูลโคนม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการฟาร์ม ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ ทันต่อเหตุการณ์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานและใช้ประกอบการตัดสินใจในการจัดการฟาร์มโคนมมีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุค 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล แม้ว่าปัจจุบันจะมีการนำเทคโนโลยีการจัดการฟาร์มโคนมมาใช้กันมาก แต่ก็ยังไม่แพร่หลายในกลุ่มเกษตรกร ดังนั้น แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโคนมภาคตะวันออกและอีสานใต้ 2560 จึงมีกลยุทธ์ในการเผยแพร่องค์ความรู้เทคโนโลยีใหม่ในการเลี้ยงโคนม เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
"คณะผู้บริหารชุมนุมภาคตะวันออกและอีสานใต้ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหาสารคามคิดค้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจดบันทึกข้อมูลโคนมรายตัว การผสมพันธุ์สัตว์ สุขภาพสัตว์ และปริมาณน้ำนมรายตัว อายุ คุณภาพน้ำนม อาหาร และการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้การจดบันทึกเป็นระบบ รวดเร็ว แม่นยำ นำมาประมวลผลในการวิเคราะห์ข้อมูล และแก้ปัญหาโคนมได้ทันทีว่าโคของตัวเองให้ผลผลิตดีหรือไม่ มีปริมาณน้ำนมจะออกมาเท่าไร หรือมีปัญหาอะไร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรง่ายในการจัดการฟาร์ม อีกทั้งทำให้ควบคุมคุณภาพน้ำนมได้ง่ายขึ้น สำหรับแอปนี้สะดวกใช้งานง่าย เกษตรกรสามารถเปิดดูได้รวดเร็วและคำนวณข้อมูลได้ทันที ตลอดจนสามารถลิงค์ข้อมูลไปยังสัตว์แพทย์ที่ทำการส่งเสริมการผสมเทียมและการรักษาโคนมได้อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถคำนวณได้ด้วยว่าโคแต่ละตัวให้ผลผลิตออกมาเท่าไรแล้ว และคาดการณ์ได้ถึงอนาคตว่าจะมีผลผลิตออกมาเท่าไร เมื่อเรารู้แผนยุทธศาสตร์ แล้วก็จะทำให้สามารถวางแผนเรื่องการตลาดได้ถูกต้อง นี้คือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร เพราะโปรแกรมดังกล่าวช่วยให้การประเมินผลอย่างแม่ยำและ เพิ่มประสิทธิภาพ เทียบเท่าน้ำนมของต่างประเทศ" นายเชิดชัยกล่าว
ส่วนจุดเด่นของโครงการนี้จะทำให้เกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเกษตรกรมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบข้อมูล มีแหล่งอาหารโคที่ยังไม่ชัดเจน กรมฯจึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารให้โคนมเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา เกษตรกรไม่มีทักษะเรื่องการบริหารจัดการฟาร์มและไม่รู้ว่าโคต้องการอาหารแบบไหน หรือป่วยเป็นโรคอะไร แต่ถ้าใช้โปรแกรมนี้มาใช้ดำเนินการและบริหารจัดการในฟาร์มทั้งหมดทุกขั้นตอนก็จะทำให้ง่ายในการแก้ไขปัญหา และคาดว่าการส่งเสริมการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลโคนมเพิ่มศักยภาพบริหารจัดการฟาร์มให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ในครั้งนี้จะสามารถถ่ายทอดความรู้วิธีการใช้โปรแกรมบริหารจัดการบันทึกโคนมนี้ให้กับเกษตรผู้เลี้ยงโคนมมีความเข้าใจและใช้โปรแกรมเป็น ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการฟาร์มโคนมมีประสิทธิภาพและแก้ปัญหาได้ทันท่วงที มีประสิทธิผลในการบริหารจัดการฟาร์มมีรายได้จากอาชีพการเลี้ยงโคนมที่ยั่งยืนและทันสมัย เพื่อให้สมาชิกนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไปใช้บันทึกข้อมูลโคและการบริหารจัดการยกระดับเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ได้ในที่สุด