กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
หลายๆ คนคิดว่าเรื่องราวบนท้องฟ้าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และอยู่คู่กับสังคมของเรามาอย่างยาวนาน ดาราศาสตร์เป็นหนึ่งในแขนงวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นการศึกษาวัตถุบนท้องฟ้าและปรากฏการณ์ธรรมชาติ อันเป็นรากฐานมาสู่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในปัจจุบัน เช่น การสำรวจอวกาศ การสร้างกระสวยอวกาศ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมจากดาวเทียม ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ให้ดีขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้น การส่งเสริมให้เยาวชน โดยเฉพาะในภูมิภาค ได้เข้าถึงกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ จึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐและภาคเอกชน ควรให้ความร่วมมือสนับสนุนเพื่อให้เยาวชนไทยได้รับองค์ความรู้นอกห้องเรียน สัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าที่สามารถนำไปต่อยอดและประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มในอนาคตข้างหน้า
ด้วยเหตุนี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จึงได้ร่วมมือกับ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา หน่วยงานในสังกัดสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ให้กับเยาวชน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ อย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบงบประมาณ 6 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรม และส่งเสริมให้หอดูดาวฯ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านดาราศาสตร์และดาราศาสตร์อิสลามให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปใน 14 จังหวัดภาคใต้ โดยกิจกรรมที่เพิ่งจบไปคือโครงการ "ค่ายเยาวชนคนดูดาว เท้าติดทะเล ปี 2" ซึ่งจัดขึ้น ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา โดยตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เยาวชนที่เข้าร่วมกว่า 100 คน จากพื้นที่ต่างๆ ในภาคใต้ จะได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ดาราศาสตร์นอกห้องเรียนในหลายรูปแบบ อาทิ การบรรยายความรู้ที่เกี่ยวกับดาราศาสตร์ เพื่อให้เยาวชนได้รับองค์ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์มากขึ้น การติดตั้งและการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องวัดมุมและกล้องโทรทรรศน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทดลองใช้งานจริงอันถือเป็นประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้ กิจกรรมสังเกตการณ์วัตถุบนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ และดวงดาวทั้งในช่วงเวลากลางคืนและเช้ามืดที่ทำให้เยาวชนสามารถนำความรู้ที่ได้มาไปต่อยอดการศึกษาดาราศาสตร์ด้วยตัวเอง ตลอดจนถึงกิจกรรมสันทนาการและการเยี่ยมชมย่านต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม อันก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ความรู้ และความคิดเห็นต่างๆ และกระตุ้นให้แรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้านดาราศาสตร์หลังจากผ่านค่ายแห่งนี้ไป
ด้านเยาวชนที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ น้องแพร - นางสาวสิริอาภรณ์ ลีนะศิริมากุล นักศึกษาคณะทันตแพทยศาสตร์ ปี 1 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า "มาร่วมค่ายฯ เพราะอยากรู้จักคนที่ทำงานด้านดาราศาสตร์จริงๆ โดยคิดว่าโอกาสน้อยมากที่ในชีวิตเราจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ค่ายนี้ให้ความรู้ที่เป็นความรู้เฉพาะด้านเยอะมาก ประทับใจมากที่สุดคือมีโอกาสได้ใช้งานกล้องดูดาว ได้เห็นดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้าจริงๆ จากที่เคยเห็นกลุ่มดาวแต่ในหนังสือ หรือในอินเทอร์เน็ต" ส่วน น้องเบญ – นางสาวเบญจมาศ สุดใจ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเคียนซาพิทยาคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า "ค่ายฯ นี้ทำให้เราได้รู้ว่าทุกอย่างรอบตัวเรามีเรื่องดาราศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น และยังได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การได้เห็นดวงจันทร์และเห็นพื้นผิวของดวงจันทร์ ตั้งใจว่าจะนำสิ่งที่ได้รับกลับไปบอกเล่าให้เพื่อนๆ และครูที่โรงเรียนด้วย" น้องนัฟ - นายอะห์นัฟ ดากามะ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนคอยรียะห์วิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา กล่าวว่า "ผมมาค่ายนี้เพราะอยากมีความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจที่จะศึกษาต่อในอนาคต ประทับใจการถ่ายทอดความรู้ของวิทยากรที่มีการสอดแทรกเนื้อหาให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้เราเข้าใจง่าย มีการนำเสนอภาคปฏิบัติที่ให้เราได้ส่องกล้องดูดาวด้วยตัวเอง ความสวยงามของดวงดาว ช่วยจุดประกายความคิดเป็นแนวทางในการศึกษาต่อได้เยอะมาก"
ทั้งนี้ การสนับสนุน หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความสนใจในการศึกษาและประกอบอาชีพในด้านนี้ เนื่องจากกำลังคนในสาขาสะเต็มเป็นรากฐานสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศสู่การมีระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมั่นคง โดยที่ผ่านมา กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยม มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี การที่จะผลักดันเด็กรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้นจำเป็นต้องมีการสนับสนุนด้านองค์ความรู้จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางเชฟรอนก็มีความพร้อมที่จะสนับสนุนและมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมด้านสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญในการนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาที่อุดมไปด้วยความมั่งคั่งยั่งยืนอย่างแท้จริง