กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
ต้องยอมรับในปัจจุบันนี้มีโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆเกิดขึ้นมามากมาย ซึ่งหากไม่รู้จักวิธีการดูแลที่ถูกต้องก็ย่อมส่งผลให้โรคต่างๆเหล่านี้ลุกลามออกไป ล่าสุด 4 คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง,หู คอ จมูก,กระดูก และแพทย์เวชศาสตร์ด้านฟื้นฟู ได้รวมตัวกันเปิดตัวหนังสือในโครงการดั๊บเบิ้ล เอ สื่อสร้างปัญญา เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปเรียนรู้การใส่ใจสุขภาพอย่างถูกวิธี เพื่อลดปัญหาการเจ็บป่วยอย่างรุนแรง และลดภาระค่ารักษาพยาบาลของประเทศต่อไป
โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงสุจิตรา ประสานสุข ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก โครงการรณรงค์ป้องกันหูหนวก หูตึง และโรคหู เจ้าของผลงานหนังสือ “Balancing of Ear-Nose-Throat : คืนสมดุลสู่ “หู คอ จมูก”...อวัยวะเล็กๆแต่ความสำคัญไม่เล็ก” คุณหมอรักษาโรคคอ หู จมูก ระดับ TOP ของเมืองไทย บอกกับเราว่า เรื่องหูถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และใกล้ตัวที่เราสามารถดูแลได้ แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นถึงความสำคัญเท่าไหร่นักเนื่องจากเห็นว่าเป็นอวัยวะเล็กๆชิ้นหนึ่งในร่างกาย ประกอบกับเรื่องของหู คอ จมูก เป็นสาขาที่มีความพิเศษ มีความซ้อนเร้น และยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ง่ายๆ ซึ่งอาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเราละเลย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องดังกล่าว
โดยคุณหมอบอกว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะโรคภัยที่เกิดขึ้นกับหู เพราะจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ จะเน้นแต่ความสนุกสนาน และมีกิจกรรมตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะคิดว่าหูมีไว้แค่เสียบบลูทูธ ไอพอด ฟังเอ็มพีสาม และรับฟังเสียงต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเราเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าเสียงเหล่านั้นหากได้รับในระดับที่มากเกินไปล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดโรคได้แทบทั้งสิ้น
สำหรับโรคที่พบเห็นบ่อยในกลุ่มวัยรุ่นขณะนี้ คือ โรคเสียงรบกวนในหู ซึ่งล้วนเกิดจากการทำกิจกรรมของวัยรุ่นทั้งสิ้น ทั้งการดูคอนเสิร์ต เสียบบลูทูธ ไอพอด และฟังเอ็มพีสาม เป็นเวลานาน โดยบางครั้งอาจมีความดังถึง 105 เดซิเบล ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงเกินกว่าหูคนเราจะรับได้ที่ 80 เดซิเบล โดยรับได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุดังกล่าวอาจก่อให้เกิดภาวะโรคหูตึงได้อีกด้วย
หูอื้อ ซึ่งโรคที่สามารถทำให้หูอื้อ ตึง และดับวูบ มีมากพอสมควร เช่น หูชั้นนอกอักเสบจากการเอาของแข็งที่ไม่สะอาดเขี่ยแคะ ทำให้หูชั้นนอกเกิดการติดเชื้อ จะมีอาการคัน น้ำหนองใสไหล ช่องหูบวม และหากเป็นมากจะลามมาถึงปาก ซึ่งวิธีการรักษาง่ายๆ คือ ห้ามเกา ห้ามแคะ เช็ดหูเบาๆเพื่อซับหนอง ใส่ยาฆ่าเชื้อโรค
นอกจากนี้โรคที่พบเห็นบ่อยคือ หูหนวก หูตึง แก้วหูทะลุ หูแว่ว เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้จะส่งผลกับการดำเนินชีวิตของเราแทบทั้งสิ้น ดังนั้นการเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ ประธานอนุกรรมการหาทุนมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาธิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เจ้าของผลงานหนังสือ “Bones Care Kit : กระดูก 206 ชิ้นที่ควรใส่ใจ” เล่าถึงความสำคัญของกระดูกว่า กระดูกคือคู่ชีวิตเพียงชุดเดียวที่ทุกคนมีมาตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้นจึงอยากให้เรารู้จักวิธีที่จะคอยปรนนิบัติกระดูกของเราทุกคนให้แข็งแรงและอยู่คู่ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ
การดูแลกระดูกและข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหากระดูกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่เราต้องรู้จักสังเกตและป้องกันอย่างดี การดูแลกระดูกทั้ง 206 ชิ้นของเราด้วยวิธีง่ายๆ โดยควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู เช่น แคลเซียม ผัก ไม่มีไขมัน และไม่ทานคาร์โบไฮเดรตมากเกินความต้องการของร่างกาย จึงเป็นวิธีเบื้องต้นหนึ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ต้องหมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง และเกิดความคล่องแคล้ว รวมถึงสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะร่างกายของคนเราจะเติบโตในช่วงที่เราพักผ่อน แต่ในทางกลับกันหากเราออกกำลังกายมากจนเกินไป และออกกำลังในท่าที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะเกิดอันตรายกับกระดูกของเราได้เช่นกัน
ซึ่งสอดคล้องกับแพทย์หญิงปิยะนุช (วงษ์วานิช) รักษ์พาณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เจ้าของผลงานหนังสือ “Fitness Over 30 เพิ่มความฟิต พิชิตโรค” ซึ่งบอกกับเราว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่การออกกำลังกายที่ไม่ถูกวิธีก็มีข้อเสีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่เป็นโรคจากการออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งนี้อาจจะเนื่องจากการรณรงค์เรื่องการออกกำลังกายได้ผลดี แต่ผู้ออกกำลังกายไม่ได้ศึกษาหรือรู้วิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง เพราะเราไม่ควรคิดว่าทุกคนจะต้องออกกำลังกายเหมือนกันทุกอย่างหรือเหมาะกับการออกกำลังกายทุกแบบ การออกกำลังกายก็เหมือนการรักษาโรคเหมือนกับการใช้ยา บางคนอาจเหมาะกับยาชนิดนี้แต่อีกคนไม่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อใช้ไปแล้วอาจจะมีผลข้างเคียง
มีบางรายมาพบแพทย์โดยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน หรือบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหักโหมเกินไป รวมถึงออกกำลังกายไม่เหมาะสมกับการรักษาโรคภัยของตนเอง ซึ่งคุณหมอย้ำว่า ไม่ใช่การออกกำลังกายเป็นสิ่งไม่ดี การออกกำลังกายเป็นสิ่งดี แต่เราควรต้องศึกษาและรู้จักเลือกให้ตรงกับตนเอง การออกกำลังกายที่ดีเมื่อออกแล้วไม่ควรเจ็บส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือแม้แต่การวอร์มก่อนและหลังออกกำลังกายก็ไม่ควรเป็นสิ่งที่ผู้ออกกำลังกายควรมองข้าม ซึ่งคุณหมอได้พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีของการออกกำลังกายหลากหลายประเภท และวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตัวเอง และปลอดภัย พร้อมทั้งอธิบายหลักการการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะออกกำลังกายว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
คุณหมอกล่าวทิ้งท้ายถึงการออกกำลังกายอีกว่า ควรจะเสริมสร้างให้รู้จักการออกกำลังกายตั้งแต่เด็กเพื่อที่จะได้สามารถปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ต้องเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเฉพาะบุคคลเพื่อจะได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกายได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย
และในตอนท้าย แพทย์หญิง ดร.พิมลพรรณ กฤติยรังสรรค์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังคุณหมอผิวหนังเจ้าของผลงานหนังสือ “Simple Steps for Healthy Skin: ผิวงามตามใจสั่ง” ก็ได้มาบอกเล่าในด้านโรคผิวหนังว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักวิธีการดูแลผิวที่ถูกต้อง บางคนก็หลงเชื่อแต่โฆษณา เราควรศึกษาการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ไม่ใช่จะเอาแต่ค่านิยมว่าผิวขาว ๆ จริง ๆ ผิวสีเข้มของคนไทย คือ ผิวที่แข็งแรงที่จะป้องกันโรคภัยให้กับเราได้ สังเกตง่าย ๆ จะเห็นว่า ผิวขาวของคนต่างชาติ จะเหี่ยวย่นเร็วกว่า มีกระและฝ้ามากกว่า ดังนั้นอยากให้เรารู้จักสวยอย่างฉลาด เพราะหากเราไม่รู้วิธีการดูแลผิวหนังผิวหน้าที่ถูกต้อง เมื่อเกิดปัญหาโรคผิวหนังแล้วจึงเกิดอาการลุกลามจากการที่ไม่รู้จักวิธีป้องกัน หรือรักษาพอเห็นว่าหายแล้วก็ไม่รักษาต่อเนื่อง
ทั้งนี้คุณหมอยังบอกอีกว่าในปัจจุบันนี้โรคผิวหนังที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ก็คือกระแสของการไปขัดหน้า ลอกหน้า จนทำให้เกิดเป็นผิวด่าง หรือทำให้ใบหน้าแดงเป็นผื่น ซึ่งกรณีแบบนี้จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ดังนั้นการดูแลผิวที่ถูกต้องจะต้องทำความเข้าใจกับตนเองก่อนว่าเรามีสภาพผิวแบบไหนแล้วเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวตนเอง เช่นเดียวกับการดูแลรักษาร่างกายในด้านต่าง ๆ ที่หากเรารู้เท่าทัน ก็สามารถป้องกันรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรง และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเจ็บป่วยโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตามจากความรู้และประการณ์ของเหล่าคุณหมอทั้ง 4 ท่านที่ได้ให้คำแนะนำ ดูแลสุขภาพผ่านปลายปากกาจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้หลายคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงการดูแลรักษาสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้ลุกลามออกไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ จำกัด
คุณมารยาท จำปาทุม
โทร. 02 663 3226 ต่อ 64 หรือ 085-839-1133