กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 11 กันยายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,192.80-1,197.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,690 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,690 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.08 น. ของวันที่ 11/09/61)
แนวโน้มวันที่ 12 กันยายน 2561
ความหวังการบรรลุข้อตกลงสำหรับอังกฤษในการถอนตัวจาก EU หรือ เบร็กซิท มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเหล่ารัฐมนตรี EU มีกำหนดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ในวันอังคารหน้า และมีแนวโน้มจัดประชุมสุดยอดนัดพิเศษประเด็นเบร็กซิทในวันที่ 13 พ.ย. ความหวังว่าจะสามารถลงนามในข้อตกลงแยกตัวกับอังกฤษอย่างราบรื่นช่วยดันสกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. หนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้น สถานการณ์เบร็กซิทที่คลี่คลายลง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายในการประชุมในวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ความพยายามแก้ไขปัญหาความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า) ช่วยลดความเสี่ยงที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะฉีกข้อตกลงนาฟต้าจากการบรรลุข้อตกลงการค้าเพียงแต่กับเม็กซิโกโดยปราศจากแคนาดา หลังนางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา จะมีการประชุมกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนทางการค้าสหรัฐ ณ กรุงวอชิงตันในวันอังคารนี้ในการเจรจาอีกรอบเพื่อปรับปรุงข้อตกลงนาฟต้า อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนดอลลาร์ยังมาจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่ China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.99% แตะ 6.8488 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร เมื่อภาวะตึงเครียดการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่จีนเตือนว่าจะตอบโต้ถ้าสหรัฐดำเนินมาตรการใหม่ใดๆโดยวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ตอบกระแสข่าวรายวันเพราะปัจจัยรายวันที่เข้ามากระทบราคาทองคำมักเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ทำให้วายแอลจียังคงแนะนำนักลงทุนในลักษณะเดิมคือ รอการอ่อนตัวลงของราคาทองคำแล้วเข้าซื้อ เบื้องต้นในระยะสั้นจำเป็นต้องติดตามกระแสข่าวต่างๆอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,182-1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,203-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,182 (18,300บาท) 1,175 (18,200บาท) 1,160 (17,950บาท)
แนวต้าน 1,203 (18,650บาท) 1,214 (18,850บาท) 1,228 (19,050บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,182 (18,460บาท) 1,175 (18,350บาท) 1,160 (18,120บาท)
แนวต้าน 1,203 (18,790บาท) 1,214 (18,960บาท) 1,228 (19,180บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999