กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--แฟรนคอม เอเชีย
เมื่อวันที่ 3 – 4 กันยายน ที่ผ่านมา มร. เซอเรน ลิงค์ (ซ้าย) นายกเทศมนตรีเมืองดุยส์บวร์ก นำคณะผู้แทนรัฐบาล 19 คน เยือนสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ในเมืองเซิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยความร่วมมือนี้จะเน้นพัฒนาเมืองดุยส์บวร์กจากเมืองอุตสาหกรรมแบบเก่าให้เป็นเมืองอัจฉริยะที่เน้นด้านบริการด้วยระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (smart government), ระบบท่าเรือโลจิสติกส์อัจฉริยะ, ระบบการศึกษาอัจฉริยะ, ระบบสาธารณูปโภคอัจฉริยะ, 5G และบรอดแบนด์, สมาร์ทโฮม และระบบอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ ในเมือง
สร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในยุโรปของยุทธศาสตร์ "The Belt and Road" ดุยส์บวร์กเป็นเมืองที่มีท่าเรือบก (inland port) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อระหว่างยุโรปและจีน ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและดุยส์บวร์กตั้งอยู่บนพื้นฐานของระบบนิเวศที่เปิดกว้างและการทำงานร่วมกันในระดับสากล ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมืองดุยส์บวร์กและหัวเว่ยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการสร้างเมืองดิจิทัลระดับมาตรฐาน โดยโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) จะขับเคลื่อนโดยคลาวด์คอมพิวติ้ง และระบบประสาทของเมืองอัจฉริยะแห่งนี้จะเป็นเครือข่าย IoT ขับเคลื่อนด้วย 5G และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อต่าง ๆ ในงาน CEBIT ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หัวเว่ยและบริษัท ดุยส์บวร์กเกอร์ แฟร์ซอกุงส์ อุนท์ แฟเคียร์สเกเซลชัฟท์ เอ็มเบฮา หรือเดเวเว (Duisburger Versorgungs- und Verkehrsgesellschaft mbH - DVV) ยังได้ลงนามในกรอบข้อตกลงว่าด้วย "Rhine Cloud" ซึ่งเป็นชื่อแบรนด์ของเมืองอัจฉริยะและแพลตฟอร์มบริการคลาวด์สาธารณะ รวมถึงบริการสมาร์ทซิตี้ต่างๆ เพื่อผลักดันให้ดุยส์บวร์กก้าวไปสู่เป้าหมายของการเป็นเมืองอัจฉริยะได้สำเร็จ
ในระหว่างการเยือนเซิ่นเจิ้น คณะผู้แทนรัฐบาลจากดุยส์บวร์กได้ชมการสาธิตเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านต่างๆ ที่ Exhibition Hall ในสำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย อาทิ การดำเนินการของเมืองอัจฉริยะ โซลูชั่น IoT และเครือข่ายคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่จะช่วยให้เมืองดุยส์บวร์กบรรลุวิสัยทัศน์เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ คณะผู้แทนฯ ยังได้เยี่ยมชมศูนย์บัญชาการของเขตหลองก่างในเมืองเซิ่นเจิ้น ที่หัวเว่ยได้ช่วยสร้าง เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้งานด้านการจัดการเมืองแบบชีวิตจริง เช่น การบริหารจัดการเหตุการณ์ การประสานงานฉุกเฉินระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ การตรวจเช็คความเสี่ยง การแชร์ข้อมูล การสนับสนุนการตัดสินใจ การตรวจสอบคุณภาพ และการสร้างภาพข้อมูล
นอกจากนี้ คณะผู้แทนยังได้ไปเยี่ยมชม Experience Center ที่ดำเนินการโดยบริษัทพันธมิตรของหัวเว่ยอีกสองแห่ง ได้แก่ ผู้ผลิตสมาร์ทโดรน EHang และบริษัท BYD โดยคณะผู้แทนได้ทดลองควบคุมรถโดยสาร EHang ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและเป็นยานพาหนะสำหรับอนาคตที่ใช้เทคโนโลยี 5G เช่นเดียวกับ SkyRail ซึ่งเป็นความสำเร็จล่าสุดของ BYD ด้านการขนส่งทางรถไฟ
ในอนาคต หัวเว่ยและบริษัทพันธมิตรพร้อมที่จะให้บริการเมืองดุยส์บวร์กด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญและโซลูชั่นชั้นนำของเทคโนโลยี 5G LTE และเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สาย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองดุยส์บวร์กในด้านต่าง ๆ อาทิ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเอง สมาร์ทโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรม 4.0
มร. เซอเรน ลิงค์ นายกเทศมนตรีเมืองดุยส์บวร์ก กล่าวว่า "เรายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับหัวเว่ยเพื่อพลิกโฉมดุยส์บวร์กให้เป็นเมืองอัจฉริยะ เรามีโครงการที่น่าสนใจมากมายจากการทำงานร่วมกับหัวเว่ยซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับงานของเรา เมืองดุยส์บวร์กมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศจีนอยู่แล้ว และด้วยความร่วมมือกับหัวเว่ย ความเป็นพันธมิตรกับจีนก็จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"
มร. หยู ต้ง ประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและโซลูชั่นอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า "นี่เป็นความร่วมมือระยะยาวที่มุ่งเน้นอนาคตระหว่างหัวเว่ยและเมืองดุยส์บวร์ก หัวเว่ยมีเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่ผสมผสาน เปิดกว้าง เชื่อถือได้และทันสมัย ซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเมืองอัจฉริยะ รวมถึงประสบการณ์ด้านการก่อสร้างอันยาวนานและความสามารถในการปรับใช้งานในแต่ละท้องถิ่นในกว่า 120 เมืองทั่วโลก เรามีความมุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมดุยส์บวร์กให้กลายเป็นเมืองมาตรฐานแห่งนวัตกรรมและดิจิทัลในยุโรปตะวันตก พร้อมทั้งปรับปรุงคุณภาพชีวิตในเมือง และเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน องค์กร และนักลงทุนไปพร้อมกัน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนดุยส์บวร์กให้เป็นเมืองอัจฉริยะใหม่ที่เปิดกว้างสำหรับนักลงทุน ซัพพลายเออร์ และคู่ค้าจากทั่วโลก"
หัวเว่ยสร้างระบบประสาทของเมืองอัจฉริยะให้กับดุยส์บวร์ก
ในชั้นโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์ "Rhine Cloud" ที่ใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย จะเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานสำหรับยุทธศาสตร์คลาวด์ของดุยส์บวร์ก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมทางด้านเทคนิคและการดำเนินการของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์, การขนส่ง, IOT และการสื่อสารแบบครบวงจร และทำให้การสร้าง Smart Duisburg 1.0 บนโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะสมบูรณ์ด้วย
ในชั้นของ IoT ดุยส์บวร์กจะใช้เทคโนโลยี 5G, Wi-Fi และ WLAN รวมถึงแพลตฟอร์ม IoT ของหัวเว่ยเพื่อให้การเข้าถึงเซ็นเซอร์ในส่วนต่าง ๆ ของเมืองทำได้แบบเรียลไทม์ เครือข่ายระบบประสาทของเมืองอัจฉริยะจะสร้างขึ้นเพื่อทำให้ระบบขนส่ง โลจิสติกส์ และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมีความก้าวหน้า ทำให้การใช้ชีวิตฉลาดยิ่งขึ้น รวมถึงเกิดระบบขับขี่อัตโนมัติ และดำเนินการเมืองอัจฉริยะได้ ซึ่งจะช่วยให้วิสัยทัศน์ประสบการณ์อัจฉริยะ Smart Duisburg 2.0 เกิดขึ้นได้ด้วย
การเยือนครั้งนี้ยังได้พัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับเยอรมนีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสร้างประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมถึงขยายพื้นที่ความร่วมมือให้กว้างขวางยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรจากทั้งสองประเทศ