กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยสามารถขับเคลื่อนและส่งผ่านนโยบายของกระทรวงการคลังและนโยบายของรัฐบาลลงสู่กลุ่มเป้าหมายและประชาชนในส่วนภูมิภาค รวมถึงเป็นการเชิดชูเกียรติยศให้กับ คบจ. ที่มีผลงานดีเด่น
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยได้รับเกียรติจากนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัล ในวันพุธที่ 12 กันยายน 2561 ณ ห้อง Portal Ballroom ชั้น 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า กรมบัญชีกลางจัดงานมอบรางวัล คบจ. ดีเด่น เป็นประจำทุกปีมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการมอบรางวัลให้แก่คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลังในส่วนภูมิภาค เป็นกรรมการ โดยมีคลังจังหวัดเป็นประธาน ด้วยการทำงานแบบบูรณาการในนามกระทรวงการคลังทั้งในส่วนของภารกิจหน่วยงานและภารกิจเชิงพื้นที่ไว้ด้วยกัน โดยมุ่งหวังแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งเป็นการนำนโยบายของกระทรวงการคลังสู่การปฏิบัติทั่วทั้งภูมิภาคจนเกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) การจัดทำโครงการจากพื้นที่โดยสอดรับกับยุทธศาสตร์ของจังหวัด และการเพิ่มประสิทธิภาพการคลังท้องถิ่น เป็นต้น โดยการขับเคลื่อนของทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน หัวหน้าหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงการคลัง ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ และมีรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ
นายประสงค์ พูนธเนศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ทีมเฉพาะกิจวายุภักษ์เพื่อการแปลงยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังสู่ภูมิภาค สนับสนุนและติดตามการทำงานของ คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลไปในทิศทางเดียวกัน โดยกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาการประเมินผลการดำเนินงานหน่วยงานภายใน คบจ. เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลังของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน คบจ. ให้มีประสิทธิภาพ จึงมีเกณฑ์การพิจารณา 3 ด้าน ได้แก่ 1) งานที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง (Top Down) มาตราของรัฐ 11 มาตรการ ประกอบด้วย
1.มาตราการภาษี
2.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
3. มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
4.การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ
5.การกู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ ในอนาคต (กรอ.)
6.อังกฤษหมู หมูสำหรับคนคลัง
7.กระทรวงการคลังคุณธรรม
8.กระทรวงการคลัง Digital (Digital MOF)
9.การส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน
10.โครงการ National e – Payment
11.คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง (MOF Tax Clinic) 2) งานที่สอดรับกับความต้องการของพื้นที่ (Bottom up) และ 3) การบริหารจัดการด้านการคลัง
ทั้งนี้ จากเกณฑ์การพิจารณา คบจ.ทั้ง 76 จังหวัด ดำเนินภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินนโยบายรัฐบาลต่างๆ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงเห็นสมควรมอบรางวัลเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญกำลังใจแก่ คบจ. ที่มีผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ผ่านเกณฑ์การประเมิน คบจ. ดีเด่น ซึ่งแบ่งรางวัลเป็น 3 ระดับ คือ ระดับดีเด่น ระดับดี และระดับชมเชย และมี คบจ. ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 15 คบจ. ได้แก่ ระดับดีเด่น จำนวน 3 จังหวัด คือ คบจ. บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และพัทลุง ระดับดี จำนวน 6 จังหวัด คือ คบจ. นนทบุรี อ่างทอง เชียงใหม่ ภูเก็ต ปัตตานี และสตูล และระดับชมเชย จำนวน 6 รางวัล คือ คบจ. สิงห์บุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ หนองคาย เลย และลำพูน
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาว กล่าวต่อท้ายว่า การมอบรางวัลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการคลังให้แก่ คบจ. รวมทั้งเผยแพร่บทบาทและหน้าที่ของ คบจ. ให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และสาธารณชนได้รับทราบ เพื่อเป็นต้นแบบการปฏิบัติงานให้กับ คบจ. อื่นๆ นำไปประพฤติปฏิบัติตาม เนื่องจาก คบจ. เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการคลังและรัฐบาล ลงสู่ภูมิภาค และเป็นกลไกในการบริหารงานของส่วนราชการ รวมทั้งสามารถบริหารจัดการ การใช้จ่ายเงินของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนสูงสุด