กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 กันยายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,192.50-1,198.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,680 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,690 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52 น. ของวันที่ 12/09/61)
แนวโน้มวันที่ 13 กันยายน 2561
แม้ว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐและแคนาดา เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า) มีทิศทางสดใสมากขึ้น ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ต.ค. เมื่อแหล่งข่าวเปิดเผยว่า แคนาดาพร้อมที่จะยอมผ่อนปรนต่อสหรัฐ ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุในทำเนียบขาวว่า การเจรจาการค้ากับแคนาดาดำเนินไปด้วยดี แนวโน้มดังกล่าวหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้น แต่ความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ทำให้นักลงทุนยังมีความระมัดระวังในการเข้าสะสมทองคำ เมื่อจีนจะขออนุญาตองค์การการค้าโลก (WTO) ในการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อสหรัฐ จากการที่สหรัฐไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินในข้อพิพาทเกี่ยวกับภาษีต้านการทุ่มตลาดของสหรัฐ จนกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำ ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนระบุว่า รัสเซียและจีนควรร่วมมือกันเพื่อต่อต้านระบบกีดกันการค้า ซึ่งประธานาธิบดี วลาดิ เมียร์ ปูตินของรัสเซีย แถลงข่าวพร้อมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยระบุว่า รัสเซียกับจีนยืนยันว่ามีความสนใจที่จะใช้เงินตราประจำชาติตนเองให้บ่อยขึ้นในการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มความมีเสถียรภาพของธนาคารต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านการส่งออกและนำเข้า ประเด็นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความร้อนแรงจากประเด็นสงครามการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเพิ่มแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตา นายโทชิมิสึ โมเทกี รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นและนายโรเบิร์ต ไลไฮท์เซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐมีแนวโน้มจัดเจรจาการค้าครั้งที่ 2 ในวันที่ 21 ก.ย. ในสหรัฐ เพื่อประเมินท่าทีของสหรัฐในการเตรียมจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่น โดยการประชุมดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นและประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 25 ก.ย. ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำมีการแกว่งตัวและผันผวนค่อนข้างจำกัด เบื้องต้นวายแอลจี ยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนแนวรับดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,182 (18,300บาท) 1,175 (18,200บาท) 1,160 (17,950บาท)
แนวต้าน 1,203 (18,650บาท) 1,214 (18,850บาท) 1,228 (19,050บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,182 (18,480บาท) 1,175 (18,370บาท) 1,160 (18,140บาท)
แนวต้าน 1,203 (18,810บาท) 1,214 (18,980บาท) 1,228 (19,200บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999