กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีพื้นที่ ประสบภัย 4 จังหวัด เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ยังคงมีระดับน้ำสูง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 206,792 คน 49,516 ครัวเรือน สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปภ. จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ สิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2550 ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร แล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ใน 31 อำเภอ 162 ตำบล 797 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 10 คน ราษฎรเดือดร้อน 206,792 คน 49,516 ครัวเรือน บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 62 หลังและเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 22,670 ไร่ ถนน 286 สาย สะพานและคอสะพาน 30 แห่ง ชำรุด รวมทั้งโรงเรียน 15 แห่งและสถานที่ราชการ 6 แห่ง
ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ สำหรับสถานการณ์อุทกภัย ได้คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด คือ สงขลาและนราธิวาส คงเหลือสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัดได้แก่ ปัตตานีและสงขลา หากไม่มีฝนตกเพิ่มลงมา คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน สำหรับการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น กรม ปภ. ได้สั่งการให้ ศูนย์ ปภ เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 11 สุราษฎร์ เขต 12 สงขลา และสำนักงาน ปภ.จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานีและยะลา สนับสนุนเรือท้องแบน 61 ลำ รถบรรทุกขนาดเล็กและใหญ่ 21 คัน เข้าอพยพผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 2,465 คน เพื่อไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมนำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค น้ำดื่มสะอาด ถุงยังชีพ จำนวน 21,276 ชุด ยารักษาโรค 2,418 ชุด รวมทั้ง เต็นท์ยกพื้นสำหรับทำเป็นที่พักชั่วคราว 10 หลัง ผ้าห่มกันหนาว 3,465 ผืน แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งรถผลิตน้ำดื่ม 4 คัน รถผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่ 9 คัน เพื่อผลิตน้ำใช้ในพื้นที่ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 25 เครื่อง เพื่อระบายน้ำ
ออกนอกพื้นที่ และวัสดุ อุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ 100 คน อปพร. 100 นาย อส. 30 นาย และชรบ 30 นาย เพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟูพื้นที่ และสิ่งสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งได้ประสานให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน พ.ศ.2550 ( 50 ล้านบาท ) พร้อมทั้งแจ้งเตือนไปยังศูนย์ ปภ. เขต 11สุราษฎร์ธานี และศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา และสำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือไว้ให้พร้อม ใช้งาน เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เพิ่มความระมัดระวังจากภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือด้วย สุดท้ายนี้หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป