กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--โรงพิมพ์ตะวันออก
บิ๊กบอส EPCO "ยุทธ ชินสุภัคกุล" มาเหนือชั้น ประกาศกางแผนธุรกิจหลังเพิ่มทุนพ่วงแจกวอร์แรนต์ฟรี! ผู้ถือหุ้นเดิม รองรับแผนขยายธุรกิจ เปิดเกมเทกโอเวอร์โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 109.79 เมกะวัตต์ คาด EIRR ไม่น้อยกว่า 18% ผูกสัญญาขายไฟยาว 25 ปี พร้อมเข้าซื้อโรงพิมพ์สื่อยักษ์ใหญ่ หวังขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจแท่นพิมพ์ยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของเมืองไทย-ขยายพื้นที่ผลิตกล่องลูกฟูก รองรับพฤติการณ์ผู้บริโภค แห่ช้อปผ่านออนไลน์ หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) (EPCO) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจและแผนใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนว่า บริษัทฯคาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ประมาณ 344.86 ล้านบาท และเงินเพิ่มทุนโดยการใช้สิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท รุ่นที่ 3 (EPCO-W3) ประมาณ 522.52ล้านบาท โดยบริษัทฯจะนำไปใช้เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคตและรองรับการลงทุนของบริษัทฯและบริษัทย่อย เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทย่อย ในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยามเวียดนามจำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 109.76 เมกะวัตต์ โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี ให้กับ Electricity of Vietnam (EVN)อัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed inTariff หรือ FIT) ที่ 0.0935 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปี และอีก 5 ปี สุดท้าย ที่ราคาตลาด มูลค่าการลงทุนประมาณ3,000 ล้านบาท (หากเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไม่เพียงพอ บริษัทจะหาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และ/หรือหาผู้ร่วมลงทุนต่อไป)
จากการประเมินมูลค่าผลตอบแทนการลงทุนในส่วนทุน (EIRR) ขั้นต่ำไม่น้อยกว่าร้อยละ 18 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และสัดส่วนการลงทุนอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาภายในเดือน กันยายน 2561 ต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อหุ้นในบริษัทแห่งหนึ่งที่ประกอบธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีงานพิมพ์ประจำอยู่แล้ว และเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้เปลี่ยนไปใช้ e-commerce มากขึ้นหลายเท่าตัว โดยบริษัทฯ จึงจะใช้สถานที่ของโรงพิมพ์ดังกล่าวขยายไปยังการผลิตกล่องลูกฟูก ซึ่งผู้บริหารของบริษัทมีประสบการณ์มากว่า 20ปี ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล (Due Diligent) ของกิจการทั้งหมดอยู่ รวมทั้งอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน