กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ธพว.
SME Development Bank เดินหน้าส่งหน่วยบริการเคลื่อนที่รถม้าเติมทุนฯ ลงพื้นที่สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในตลาดท่องเที่ยวชุมชนทั่วไทย หนุนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยถูกไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ยกตัวอย่างความสำเร็จดันผู้ค้า "ตลาดหลวงปู่ทวด" ถึงแหล่งทุนฉลุย
นายมงคล ลีลาธรรมธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) กล่าวว่า จากที่ธนาคารร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำรวจจำนวน เอสเอ็มอี พบว่า ยังมีผู้ประกอบการรายย่อย หรือที่เรียกว่า "คนตัวเล็ก"ไม่ได้จดทะเบียน ตกสำรวจอยู่นอกระบบกระจายอยู่ทั่วประเทศอีกกว่า2.7 รายซึ่งไม่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ของภาครัฐ และแหล่งทุนของสถาบันการเงินในระบบ ธนาคารจึงได้ใช้กระบวนการ"หน่วยรถม้าเติมทุน ส่งเสริม SMEsไทย ฉับไว ไปถึงถิ่น" บริการเคลื่อนที่วิ่งเข้าหาผู้ประกอบการเหล่านี้ถึงถิ่นตามชุมชนต่างๆ เพื่อเห็นข้อมูลเชิงประจักษ์ มีตัวตนจริง และยืนยันได้ถึงการดำเนินธุรกิจจริง เพื่อจะพาเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หน่วยรถม้าฯ ออกให้บริการทั่วประเทศแล้วกว่า 600 คัน
หนึ่งในพื้นที่สำคัญที่มอบนโยบายให้หน่วยรถม้าฯ ลงพื้นที่บริการสินเชื่อแก่คนตัวเล็ก คือ ตลาดท่องเที่ยวชุมชนและ ตลาดแนวย้อนยุคซึ่งเป็นแหล่งที่มีผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายรวมกันอยู่จำนวนมากและกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ รวมถึง มีความสำคัญเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง เพราะผู้ค้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนในพื้นที่ซึ่งกระบวนการพาถึงแหล่งทุนนั้น เบื้องต้นหน่วยรถม้าฯ จะลงพื้นที่ตามตลาดท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ที่มีศักยภาพเพื่อแนะนำสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ เช่น สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาวสำหรับบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ดอกเบี้ย 3%ต่อปี และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับนิติบุคคล ดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี พร้อมให้บริการยื่นกู้ผ่านแพลตฟอร์ม SME D Bankได้ทันที สามารถรู้ผลว่าคุณสมบัติเข้าเงื่อนไขได้รับการพิจารณาสินเชื่อหรือไม่ภายใน 7 วัน ซึ่งที่ผ่านมา เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น"ตลาดหลวงปู่ทวด" จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถอำนวยสินเชื่อให้แก่ผู้ค้ารายย่อย โดยดูจากข้อมูลเชิงประจักษ์ถึงการดำเนินธุรกิจจริง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น ร้านข้าวหลามสามแม่ลูก ร้านก๋วยเตี๋ยวกะโหลกกะลา และร้านตันหยง หมี่กรอบโบราณ เป็นต้น เบื้องต้นในตลาดแห่งนี้ มีผู้ประกอบการเข้าใช้บริการสินเชื่อของธนาคารแล้วกว่า 20 ราย เฉลี่ยวงเงิน 3 แสนบาทต่อราย
"ตลาดหลวงปู่ทวด เป็นตลาดท่องเที่ยวชุมชนที่มีความโดดเด่นด้านบริหารจัดการ คัดสรรเฉพาะสินค้าดีจากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น หลายธุรกิจมีความศักยภาพจะขยายกิจการ หรือเพิ่มมูลค่าได้ แต่เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยมักไม่มีเวลาเข้ามาติดต่อธนาคาร และไม่มีเอกสารยืนยันใดๆ ทำให้พลาดโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนอย่างน่าเสียดาย หน่วยรถม้าเติมทุนฯ จึงเข้ามาทำหน้าที่พาผู้ประกอบการเหล่านี้เข้าถึงบริการของภาครัฐ ทั้งด้านเงินทุนโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันควบคู่เติมความรู้ เพื่อให้รายย่อยเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งความสำเร็จเช่นนี้จะกระจายไปยังตลาดท่องเที่ยวชุมชนอื่นๆทั่วประเทศ" นายมงคล กล่าว
ด้านนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา และผู้บริหาร ตลาดหลวงปู่ทวด กล่าวว่า ตลาดแห่งนี้ เปิดขึ้นมาเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นอย่างแท้จริง ซึ่งในอดีตค้าขายอยู่ตามข้างทางให้มาอยู่รวมกัน มีสถานที่ประกอบอาชีพถาวร เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งจะสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นใจ โดยนับตั้งแต่เปิดตลาดมาประมาณ 5 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันเฉลี่ยประมาณ 3,000 คนต่อวัน หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์เฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลหยุดยาว เพิ่มถึง 30,000 คนต่อวัน ยอดขายรวมจากผู้ประกอบการทั้งหมดในตลาด 135 ราย นับเพียง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.2561) กว่า60 ล้านบาท ซึ่งหลายรายขายดีจนผลิตไม่ทัน มีความต้องการสินเชื่อเพื่อจะขยายกำลังผลิตเพิ่ม แต่ที่ผ่านมา ไม่สามารถทำได้ เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน กระทั่ง มีบริการรูปแบบใหม่ของหน่วยรถม้าเติมทุนฯ จากSME Development Bankที่พิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากการดูว่าทำธุรกิจจริง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน นับเป็นการช่วยผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างถูกต้องและโดนใจอย่างยิ่ง