กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--โรงพยาบาลรามคำแหง
โรคนี้เกิดจากเซลล์มะเร็งเข้าไปเจริญเติบโตในรังไข่ที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนเพศหญิง และยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในผู้หญิงอีกด้วยนะครับ
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ความเสี่ยงสำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคนี้ คือผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งรังไข่ ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ หรือคลอดลูกคนแรกหลังอายุ 30 ปีแล้ว ผู้หญิงที่ประจำเดือนมาเร็ว หรือหมดประจำเดือนช้ากว่าอายุ 55 ปี
ในระยะแรกผู้ป่วยมักไม่มีอาการแสดง แต่อาจมีอาการอย่างเช่น รู้สึกอึดอัดในช่องท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ หรือปวดท้อง รู้สึกอิ่มจนอึดอัดถึงแม้รับประทานอาหารอ่อนๆ คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหารน้ำหนักขึ้นหรือลดโดยไม่ทราบสาเหตุมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเป็นอย่างต่อเนื่องและค่อยๆ เป็นมากขึ้นทีละน้อย นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ในระยะที่โรคลุกลามไปแล้วนั่นเองครับ
สำหรับการป้องกันนั้น เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ อีกทั้งมะเร็งรังไข่ในระยะแรกๆ มักไม่แสดงอาการ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือหมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเรา รวมทั้งตรวจภายในหรือทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง หากพบสิ่งผิดปกติจะได้รีบรักษาก่อนที่โรคจะลุกลามไปจนยากแก่การรักษา