กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 18 กันยายน 2561 ทำให้เกิดสถานการณ์ภัยใน 23 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 7 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี สตูล และตราด รวม 23 อำเภอ 75 ตำบล 363 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,947 ครัวเรือน 49,910 คน ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 18 กันยายน2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หนองคาย นครพนม บึงกาฬ เพชรบุรี สกลนคร นครนายก ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิจิตร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา สตูล และตราด รวม 118 อำเภอ523 ตำบล 2,885 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 70,284 ครัวเรือน 224,084 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ เชียงราย พิจิตร ชัยภูมิ สระบุรี ลพบุรี หนองคาย อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ และนครพนม ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 7 จังหวัด รวม 23 อำเภอ 75 ตำบล 363 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,947 ครัวเรือน 49,910 คน แยกเป็น ลุ่มน้ำอูนและลุ่มน้ำสงคราม 1 จังหวัดได้แก่ สกลนคร น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคำตากล้า อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอพรรณานิคม อำเภออากาศอำนวย และอำเภอบ้านม่วง รวม 10 ตำบล 20หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 186 ครัวเรือน 500 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 1,533 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ลุ่มน้ำบางปะกง 3 จังหวัดได้แก่ นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี รวม 19 ตำบล 120 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,013 ครัวเรือน 26,649 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 1,040 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอบ้านสร้าง รวม 9 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,963 ครัวเรือน 6,345 คน ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ฉะเชิงเทรา ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลาดกระทิงล้นทางระบายน้ำเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอแปลงยาว อำเภอบางคล้า อำเภอสนามชัยเขต และอำเภอพนมสารคาม รวม 16 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,248 ครัวเรือน 3,489 คน ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ลุ่มน้ำตราด 1 จังหวัดได้แก่ ตราด น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองตราด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9 ครัวเรือน 24 คน ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ลุ่มน้ำเพชรบุรี 1จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี น้ำท่วม ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านแหลม รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 490 ครัวเรือน 2,035 คน ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลงอย่างต่อเนื่อง ยังคงมี น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่ ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ สตูล น้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอละงู อำเภอเมืองสตูล และอำเภอควนโดน รวม 14 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,038 ครัวเรือน 10,868 คน ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ ได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ท้ายนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป