กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--กรมประมง
กรมประมงประกาศขอให้ผู้ประกอบการเรือประมงและแรงงานต่างด้าวที่จะทำงานในเรือประมงอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวและแรงงานต่างด้าวที่ต้องการทำงานในเรือประมงที่จะออกไปทำการประมงในทะเลให้ยื่นเรื่องของหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ภายในวันที่ 30 กันยายน นี้
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ตามมาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2560 ได้กำหนดให้เจ้าของเรือประมงพาณิชย์ที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานในเรือประมงต้องมีหนังสือ คนประจำเรือสำหรับคนต่างด้าว (Seabook) (เล่มเขียวหรือเล่มเฉพาะกิจเล่มเหลือง) แต่เนื่องจาก seabook เล่มเหลืองจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน2561 ดังนั้นเพื่อให้ผู้ประกอบการเรือประมงสามารถประกอบกิจการประมงได้อย่างต่อเนื่องกรมประมงจึงได้เปิดให้ผู้ประกอบการมายื่นเรื่องขอ seabook เพื่อขยายระยะเวลาการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวของท่าน โดยการยื่นเรื่องขอ seabook ในปีนี้กรมประมงได้ขยายระยะเวลาในการยื่นเรื่องได้จนถึงก่อนวันที่ seabook จะหมดอายุ ซึ่งต่างจากเดิมที่จะต้องทำเรื่องยื่นขอก่อนล่วงหน้า 30 วัน
นอกจากการอำนวยความสะดวกดังกล่าวแล้วทางกรมประมงได้ร่วมกับกรมการจัดหางาน จัดตั้งศูนย์ One Stop Service เพื่อให้บริการต่ออายุหนังสือคนประจำเรือ Seabook ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวแรงงานต่างด้าวเองเพราะหากแรงงานต่างด้าวจะมีเอกสารยืนยันตัวตนที่ชัดเจนเข้าสู่ระบบถูกต้องก็ทำให้แรงงานต่างด้าวได้รับโอกาสในการทำงานมากยิ่งขึ้นและได้รับการดูแลสวัสดิภาพตลอดจนช่วยป้องกันปัญหาถูกเอาเปรียบจากนายจ้างได้อีกด้วย
สำหรับศูนย์ One Stop Service ที่ถูกจัดตั้งขึ้นจะให้บริการใน 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1. ตรวจสุขภาพ และประกันสุขภาพ
2. ตรวจลงตรา VISA ให้อยู่ในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 และต่อได้อีก1 ปี
3. ออกหนังสืออนุญาตทำงานมีอายุ 1 ปี ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 และสามารถต่ออายุได้อีก 1 ปี
4. กรมประมงจะออกหนังสือคนประจำเรือหรือ seabook เล่มเขียว เพื่อทดแทนเล่มเหลืองที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย. 61 นี้
ทั้งนี้ ศูนย์ One Stop Service จะเปิดให้บริการตั้งแต่บัดนี้โดยผู้ประกอบการจะต้องใช้เอกสารประกอบการเพื่อยื่นขอหนังสือคนประจำเรือ ดังนี้
1.หนังสือคนประจำเรือที่หมดอายุ
2. สำเนาใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
3. สำเนาใบอนุญาตทำการประมงของเจ้าของเรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดตั้งแต่สิบตันกรอสขึ้นไป
4. สำเนาใบทะเบียนเรือและสำเนาใบอนุญาตให้ใช้เรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดน้อยกว่าสิบตันกรอส
5. สำเนาหนังสือสัญญาจ้างให้ทำงานในเรือประมง
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์นำแรงงานต่างด้าวมายื่นเรื่องต่ออายุหนังสือคนประจำเรือให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการดังกล่าวแรงงานต่างด้าว
จะไม่สามารถทำงานในกิจการประมงทะเลได้ต่อไป และยังส่งผลให้แรงงานต่างด้าวไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศไทยและทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 - 50,000 บาท สำหรับนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และกระทำความผิดซ้ำมีโทษจำคุกไม่เกิน
1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามมิให้จ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี สำหรับผู้ประกอบการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง โทร.02-561-4689