กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
- แบรนด์รังนกแท้ คือ "หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดจากประเทศไทย" ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 20% ต่อเดือน
- ตอกย้ำวิสัยทัศน์ผู้นำอาหารเสริมสุขภาพระดับโลก เดินหน้าดันไทยเป็นฮับผลิตและส่งออก "อาหารแห่งอนาคต" ด้วยงบลงทุนหลายพันล้านบาท
บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก ภายใต้ตราผลิตภัณฑ์ "แบรนด์รังนกแท้" และ "แบรนด์ซุปไก่สกัด" จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ 'ทีมอลล์ โกลบอล' แพลตฟอร์มการค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน (ภายใต้การดำเนินงานของอาลีบาบา) เดินหน้าเต็มสูบบุกตลาดศักยภาพสูงอย่างจีน จัดเต็มทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ดันยอดขายทะลุตามเป้า โดยมีแบรนด์รังนกแท้เป็นสินค้าหัวหอก
ความร่วมมือกับทีมอลล์ โกลบอลในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิต "อาหารแห่งอนาคต" (Hub of Food for the Future) เพื่อส่งออกทั่วโลกภายใน 5 ปี นอกจากนี้ แบรนด์ ซันโทรี่ฯ ยังเตรียมพัฒนาอุตสาหกรรมและคุณภาพวัถตุดิบรวมถึงแรงงานไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ
มร. เก็น ไซโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า "แบรนด์ ซันโทรี่ ได้ทดลองจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ผ่านทางทีมอลล์ โกลบอล เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์รังนกแท้เป็นผลิตภัณฑ์กลยุทธ์ แบรนด์รังนกแท้ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจมากจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากชาวจีนเชื่อว่ารังนกเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อีกทั้งรังนกแท้คุณภาพสูงบรรจุขวดตราแบรนด์ของเรา ยังรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ซื้อหาและจัดเก็บสะดวก จึงมียอดขายที่เติบโต 20% อย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือน ส่งผลให้แบรนด์รังนกแท้เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีที่สุด (Best Selling Products) จากประเทศไทยสำหรับทีมอลล์"
"เราคาดว่ายอดขายของแบรนด์รังนกจะโตขึ้นเป็น 2 เท่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากมีเทศกาลพิเศษของชาวจีนที่เรียกว่า 'วันคนโสด' (Singles' Day) ซึ่งอาลีบาบาถือเป็นดีเดย์สำหรับมหกรรม ช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษยิ่งใหญ่ที่ประจำปี การผนึกกำลังกันอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ซันโทรี่ฯ และทีมอลล์ โกลบอล จะทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ ของเราได้รับการโปรโมทผ่านทุกช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์ โดยมี Flagship Store เป็นช่องทางหลักที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศจีน" มร. ไซโตะ กล่าว
มร. ไซโตะ กล่าวต่อว่า "แบรนด์ ซันโทรี่ฯ มีวิสัยทัศน์สำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลก ประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่อันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เราจึงวางแผนพัฒนาองค์กรของเราในเมืองไทยให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอาหารแห่งอนาคตด้วยงบลงทุนหลายพันล้านบาท ทั้งเพื่อการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ พัฒนาไลน์การผลิต และระบบซัพพลายเชนที่ทันสมัย ทำให้ในปัจจุบันประเทศไทยผลิตได้มากถึง 350 ล้านขวดต่อปี" และเสริมว่า "นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาเราได้ย้ายสำนักงานระดับภูมิภาคจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย เพื่อรองรับการดำเนินการสู่เป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อให้สำนักงานระดับภูมิภาคในเมืองไทยเป็นศูนย์กลางในการวางกลยุทธ์ การส่งออกและกระจายสินค้าไปยังตลาดในภูมิภาคต่างๆ ของโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรป แอฟริกา หรือลาตินอเมริกา เพิ่มเติมจาก 19 ประเทศที่เราส่งออกอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งสำนักงานใหญ่และสาขาหลักต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย"
"ผลการดำเนินงานหลังย้ายสำนักงานจากสิงคโปร์มายังประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วนั้นเสร็จสมบูรณ์ เป็นที่ น่าพอใจ เราจึงเร่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งทั้งฝั่งของทีมกลยุทธ์ และทีมการตลาด เพื่อต่อยอดจุดแข็งด้านการผลิต นอกจากนี้ การขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อสุขภาพยังจะก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างแบรนด์ ซันโทรี่ และผู้ประกอบการอื่นๆ ภายในประเทศ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนคุณภาพแรงงานไทยและวัตถุดิบจากประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลอีกด้วย" มร. ไซโตะกล่าวสรุป