กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
นางสุนทะรา คำภูสิริ ผู้ก่อตั้ง โกลด์เด้น กรุ๊ป ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ แห่งภาคตะวันออกของไทย เปิดเผยว่า โกลด์เด้น กรุ๊ป มีมูลค่าทุนจดทะเบียนบริษัทในเครือกว่า 1,300 ล้านบาท และก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในภาคตะวันออกของไทย ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการคุณภาพหลากประเภทกว่า 34 โครงการ อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม รวมมูลค่าโครงการกว่า 11,122 ล้านบาท โดยเฉพาะทำเลศรีราชา ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น อาทิ ศูนย์การค้า และตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างชั้นนำ เป็นต้น
โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ 'คีน เซ็นเตอร์ ศรีราชา : KEEN Centre Sriracha' ด้วยแนวคิดการออกแบบในสไตล์ญี่ปุ่น มูลค่าโครงการ 2,716 ล้านบาท ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายกว่า 65% โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการเรือธง เนื่องจากตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ พร้อมวิวทะเลใจกลางเมืองศรีราชา ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามโรบินสัน ติดกับอิออนมอลล์ และใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลพญาไท, โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และสวนสุรศักดิ์มนตรี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อลงทุนและอยู่อาศัยเอง ในราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท หรือประมาณ 86,000 บาทต่อตร.ม. ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสุดหรู อาทิ ห้องออนเซ็นขนาดใหญ่, ห้องชงชา, สวนสไตล์เซน, สระว่ายน้ำพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ, ห้องเด็กเล่น และสวนชั้นดาดฟ้าวิว 360 องศา นอกจากนี้ ยังมีบริการทำความสะอาดห้องพักระดับมาตรฐานโรงแรมฟรี สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ตลาดอสังหาฯ ในศรีราชาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะศรีราชาภายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50% โดยเฉพาะราคาที่ดินใกล้ชายหาดปรับขึ้นสูงมากจาก 5 ปีก่อนราคาหลักหมื่นต่อตารางวา ซึ่งปัจจุบันขยับไปที่ 2-3 แสนบาท ต่อตารางวา และมูลค่าตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากรุงเทพฯ ตามการขยายตัวของการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนแรงงานชาวญี่ปุ่นที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย พื้นที่ศรีราชาอยู่ที่ราว 8,000 คน หากรวมจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่ย้ายมาอยู่ด้วย จะอยู่ที่ราว 10,000 – 15,000 คน
"ศรีราชาเป็น 1 ใน 7 ของสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งใช้ระยะเวลาเดินทางจากสุวรรณภูมิเพียง 30 นาที เชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกมากยิ่งขึ้นส่งผลบวกต่อผู้ที่อยู่อาศัยและกลุ่มนักลงทุน รวมถึงยังสอดคล้อง กับแผนพัฒนาโครงการของบริษัท โกลด์เด้น กรุ๊ป จำกัด ที่เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่บริเวณศรีราชา และเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในภาคตะวันออกของไทย ซึ่งทำให้มั่นใจว่าคีน เซ็นเตอร์ ศรีราชา จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าด้วยความโดดเด่นในแต่ละด้านของโครงการคุ้มค่าในการลงทุนเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับ" นางสุนทะรา คำภูสิริ กล่าว
นอกจากนี้ การเดินหน้าประกาศโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นนั้น จะเป็นส่วนสำคัญในกระตุ้นเศรษฐกิจศรีราชาให้มีการเติบโต ตลอดจนการขยายตัวของที่อยู่อาศัยจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นเช่นกัน พร้อมกับขยายกลุ่มนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในศรีราชามากขึ้นไป
โกลเด้น กรุ๊ป ทางเรามีแผนจะขยายพัฒนาโครงการไปยังจังหวัดอื่นๆ ภายในภาคตะวันออก ของประเทศไทย จากเดิมที่ส่วนใหญ่เน้นพัฒนาโครงการในชลบุรีเป็นหลัก ซึ่งบริษัทยังมีแผนในอนาคต จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส คาดว่าจะดำเนินการในปี 2562 และบริษัทยังมองหาที่ดินแปลงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต และตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน ส่งเสริมการดำเนิน นโยบายของภาครัฐ นอกจากนี้ภายในปี 2561 โกลเด้น กรุ๊ปมีแผนที่จะพัฒนาโครงการ ราว 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,237 ล้านบาท ในทำเลศรีราชา 2 โครงการ บางละมุง 2 โครงการ และหนองมน 1 โครงการ รวม 1,576 ยูนิต
"ทิศทางการลงทุนในอนาคต ปี 2562 - 2563 โกลเด้น กรุ๊ป มีแผนที่จะขยายโครงการไปยังจังหวัดอื่นๆ ภายในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดระยองเป็นหนึ่งในโครงการที่มีที่ดินรอการพัฒนา ซึ่งจะถูกนำมาพัฒนาเป็นรีสอร์ตและบ้านพักริมหาดให้บริการกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมบนขนาดที่ดินกว่า 252 ไร่ รวมถึงการพัฒนาในประเภทอื่นๆ ทั้งรูปแบบแนวราบ แนวสูง หรือแม้กระทั่งโครงการมิกซ์ยูส และโกลเด้น กรุ๊ป ยังมีโครงการรอพัฒนาอีกจำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ และรีสอร์ต 1 โครงการ จากนโยบายการเป็นบริษัทรายเล็กที่พัฒนาโครงการได้อย่างมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับมาตรฐานโครงการที่มีคุณภาพและความคุ้มค่าตอบแทนแก่ลูกค้า" นางสุนทะรา คำภูสิริ กล่าวสรุป