ปภ. สุราษฎร์ธานี ฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย

ข่าวเทคโนโลยี Friday December 28, 2007 11:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และบริษัทยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลล์ จำกัด (มหาชน) สาขาสุราษฏร์ธานี ฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตนที่ปลอดภัยหากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างทักษะในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครในพื้นที่
นายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี ทำให้มีการใช้วัตถุอันตรายเพิ่มมากขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ทั้งการรั่วไหล การเกิดเพลิงไหม้และการระเบิด สร้างความสูญเสียต่อชีวิตทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีเส้นทางคมนาคมทางน้ำ และอากาศ และเป็นเส้นทางสายหลักลงสู่ภาคใต้ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายสูง ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้วิธีการปฏิบัติตน
ที่ปลอดภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฏร์ธานี จึงได้ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี และบริษัทยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลล์ จำกัด (มหาชน) สาขาสุราษฏร์ธานี ฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยจัดประชุมซักซ้อมเตรียมความพร้อมในการฝึกซ้อมแผน การประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการฝึกภาคปฏิบัติ โดยจำลองสถานการณ์ก๊าซรั่วฟุ้งกระจายเป็นจำนวนมากบริเวณหลังถังเก็บก๊าซ LPG G1. เนื่องจากระบบเซ๊ฟตี้วาล์วเปิด และมีรถบรรทุกถอยหลังมาชนหัวจ่าย ทำให้มีก๊าซรั่วและเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 คน และแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามลำดับ ซึ่งโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการอพยพหนีภัยเบื้องต้น ให้กับประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้งภาครัฐภาคเอกชนได้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ อันจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ