กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปิดในงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018 เป็นงานที่มีประโยชน์ เรามุ่งเน้นเรื่องของคุณภาพเป็นหลัก เริ่มตั้งแต่การแบ่งโซนการจัดงาน ที่ไม่ใช่แค่เพียงนำเสนอเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้ทดสอบ สัมผัส เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะด้านดิจิทัลในงาน, รวมทั้งเนื้อหาสาระที่ทุกบูธนำมาจัดแสดงก็มีเรื่องของคุณภาพ มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้, วิทยากรแต่ละท่านที่มาร่วมเสวนาแสดงความคิดเห็น ต่างนำความรู้ ประสบการณ์ที่มีประโยชน์มาเปิดมุมมอง วิสัยทัศน์ให้แก่ผู้เข้าชมงาน
ภายในงานนี้ มีกิจกรรมการแข่งขันมากมาย ซึ่งมีเด็กจากต่างจังหวัดผ่านเข้ารอบ และชนะเลิศการแข่งขันเหล่านั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า "ดิจิทัล" ลดความเหลื่อมล้ำได้ อินเตอร์เน็ตทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงความรู้ การจัดงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง คือเครื่องมือหนึ่งที่จะให้สังคมเกิดการเรียนรู้ และเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น
"ผมหวังว่าเราจะร่วมกันสร้าง "โอกาส" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมกล่าวขอบคุณ depa ในฐานะแม่ทัพใหญ่ในการจัดงาน ขอบคุณหน่วยงานพันธมิตรที่มาร่วมแสดงผลงานด้านดิจิทัลล้ำสมัย รวมทั้งวิทยากรทุกท่าน ที่มาร่วมกันทำให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี และขอบคุณผู้เยี่ยมชมงานทุกๆ คน และอยากฝากท่านให้บ่มเพาะบุตรหลานให้ใฝ่รู้ มีทักษะดิจิทัลในระดับต่างๆ ซึ่งต่อไปจะก้าวมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศโดยใช้ดิจิทัล" รมว.ดิจิทัลฯ กล่าว
ดร.พิเชฐ กล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนทุกคนร่วมงานดิจิทัล ไทยแลนด์ 2019 ภายใต้แนวคิด ASEAN Connectivity ซึ่งปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน เราจะมาร่วมกันทำให้กิจกรรมอาเซียน ก้าวออกไปนอกอาเซียนด้วยกัน
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวเสริมว่า บรรยากาศงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018 ภายใต้พื้นที่ 60,000 ตร.ม. คึกคักมาก คนให้ความสนใจเข้าชมงานทุกวัน โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ ส่งผลให้ยอดคนเข้าชมงานทะลุเป้าไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งผู้ร่วมจัดแสดงกว่า 480 หน่วยงาน ได้นำเสนอผลงานที่มีเนื้อหาของ Big Data is everywhere จริงๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เกิดความตระหนักถึงการก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์