กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 26 กันยายน 2561 ทำให้เกิดสถานการณ์ภัยใน 23 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 22 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครนายก รวม 3 อำเภอ 19 ตำบล 140 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,588 ครัวเรือน 25,462 คน ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม – 26 กันยายน 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หนองคาย นครพนม บึงกาฬ เพชรบุรี สกลนคร นครนายก ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ พิจิตร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา สตูล และตราด รวม 120 อำเภอ 530 ตำบล 2,973 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 72,680 ครัวเรือน 231,052คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 22 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ เชียงราย พิจิตร ชัยภูมิ สระบุรี ลพบุรี หนองคาย อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ บึงกาฬ นครพนม ตราด สกลนคร เพชรบุรี น่าน สตูล ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครนายก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี รวม 19 ตำบล 140 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,588 ครัวเรือน 25,462 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 1,040 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ทั้งนี้ ได้กำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป