กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 27 กันยายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,191.30-1,196.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,700 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,740 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52 น. ของวันที่ 27/09/61)
แนวโน้มวันที่ 28 กันยายน 2561
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% แถลงการณ์ระบุว่า เฟดยังคาดการณ์ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.ปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปีหน้า และ 1 ครั้งในปี 2563 ทั้งนี้แถลงการณ์เฟดได้ตัดคำว่า"เชิงผ่อนคลาย"ออกไป แต่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดระบุว่า นั่นไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนโยบาย และไม่มีความเห็นขัดแย้งในแถลงการณ์นโยบายของเฟดครั้งนี้ ราคาทองคำจึงเคลื่อนไหวไม่มากเพราะเป็นไปตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า เขาไม่พอใจเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟด ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเสริมว่าการปรับขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยเพราะเราทำงานดี ผมไม่พอใจกับเรื่องนั้น จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐมีแรงขายทำกำไรออกมาและส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ราคาทองคำได้รับแรงหนุน เมื่อญี่ปุ่นตกลงที่จะเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐเพื่อลดความขัดแย้งทางการค้า จนพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่น และนายทรัมป์ ประชุมหารือกันนอกรอบระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยนายอาเบะและนายทรัมป์ออกแถลงการณ์ร่วม ให้คำมั่นว่าจะงดเว้นจากการออกมาตรการโจมตีกันและกันระหว่างที่ยังมีการเจรจาเกิดขึ้นอยู่ โดยนายอาเบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นเข้าใจว่าข้อตกลงคือสหรัฐจะไม่ใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อขึ้นภาษีศุลกากรขาเข้าในระหว่างนี้และทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันประคองการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ เบื้องต้นแนะนำให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,191-1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงซื้อดันราคาขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,191 หรือ 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว และพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบในระยะสั้น อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค ดังนั้นนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,207-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนเมื่อราคาตั้งฐานได้อีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,191 (18,200บาท) 1,187 (18,150บาท) 1,175 (18,000บาท)
แนวต้าน 1,207 (18,500บาท) 1,214 (18,600บาท) 1,228 (18,800บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,191 (18,360บาท) 1,187 (18,300บาท) 1,175 (18,120บาท)
แนวต้าน 1,207 (18,610บาท) 1,214 (18,720บาท) 1,228 (18,940บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999