กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--ทริปเปิ้ล พี คอนเน็คชั่น
"เบบี้ กิ๊ฟ" หนึ่งในผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กระดับพรีเมี่ยม เผยเคล็ดลับการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อลูกน้อย ภายใต้แนวคิด "เพราะเด็กทารกพูดไม่ได้" (Listen to baby's voice) ดึงกุมารแพทย์ชื่อดัง ชวนฟังเสียงทารก ช่วยคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ ทั้งคุณภาพและความปลอดภัย ผ่านการสร้างความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ด้วยผลงานวิจัย
อรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากเด็กทารกยังไม่สามารถสื่อสารได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่พ่อแม่เลือกมาให้นั้นเหมาะกับตัวเด็กหรือไม่ ดังนั้นพ่อแม่แต่ละครอบครัวจึงต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อเลือกสรรสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้กับลูก ซึ่งงานวิจัยจากสถาบันต่างๆ หรือกุมารแพทย์ คือ แหล่งข้อมูลที่สำคัญและน่าเชื่อถือมาก ดังนั้นเบบี้ กิ๊ฟ จึงได้นำไอเดีย "เพราะเด็กทารกพูดไม่ได้" มาเป็นแนวคิดหลักในการคัดเลือกสินค้า เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับเด็กแต่ละวัยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังเป็นการให้ความรู้พ่อแม่อีกด้วย ทาง เบบี้ กิ๊ฟ จึงได้ริเริ่มแนวคิด "เพราะเด็กทารกพูดไม่ได้" (Listen to baby's voice) มาเป็นแนวคิดหลักในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อลูกน้อย โดยเลือกสินค้าที่มีผลงานการวิจัยรับรอง หรือได้รับการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญหรือกุมารแพทย์
ล่าสุดเพื่อสร้างความเข้าใจความต้องการของลูกน้อยได้อีกยิ่งขึ้น เบบี้ กิ๊ฟ จึงได้จัดงาน "Listen to Baby's Voice Workshop" เชิญกุมารแพทย์ชื่อดัง ให้ความรู้เรื่องการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ทารกอย่างถูกต้อง รวมถึงกระทบไหล่คุณพ่อคุณแม่เซเลบริตี้คนดัง มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อลูกน้อย
รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัย นวมินทราธิราช เผยว่า "เด็กแรกเกิดจะเป็นวัยที่พูดไม่ได้ การเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับวัย จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องรู้จักสังเกตุ โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่สรีระยังเติบโตไม่เต็มที่ ได้แก่ ศรีษะ-ต้นคอ, กระดูกสันหลัง, ระบบทางเดินหายใจ, การปรับอุณหภูมิร่างกาย, การนอนการตื่นที่ยังไม่เป็นเวลา และผิวหนังอ่อนบางแพ้ง่าย เป็นต้น และเมื่อเด็กเริ่มเติบโตขึ้นก็จะมีพัฒนาการทางสรีระเปลี่ยนแปลงต่อไป โดยเฉพาะในขวบปีแรก คือ วัยที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ที่เรียกว่า "พัฒนาการทางด้านสังคม" (Social Development) การได้รับการเลี้ยงดูและดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กมีความสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดี"
ฉะนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทารกที่ยังสื่อสารไม่ชัดเจน คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ได้แก่
1.ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานน่าเชื่อถือ
2.เหมาะกับวัยและขนาดของเด็ก
3.ความปลอดภัย คือ ต้องไม่มีส่วนประกอบแหลมคม หรือส่วนประกอบที่เป็นอันตรายกับทารก
4. มอบความสบายให้กับทารก
"นอกจากนี้งานวิจัยต่างๆ เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำมาประกอบในการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กด้วย โดยเราต้องดูด้วยว่าเป็นงานวิจัยที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ โดยพิจารณาประกอบกับปฏิกิริยาของเด็ก เช่น ถ้าเลือกเปลนอน และให้ลูกลองนอนแล้ว เด็กมีท่าทางขยับตัวหนีหรือนอนไม่ได้ก็เป็นสัญญาณว่าเขาไม่สบายตัว สิ่งเหล่านี้พ่อแม่ต้องมีเวลาให้กับลูก เพราะเด็กแต่ละคนมีวิธีการสื่อสารเป็นของตัวเอง"
ฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ลองมาฟังวิธีเลือกไอเท็มให้เจ้าตัวน้อยจากประสบการณ์เหล่าคุณพ่อคุณแม่คนดังกันบ้าง เริ่มต้นที่ "อุ๊" เจนนิส โสภณพนิช ยังพิชิต เวิร์คกิ้งมัมของลูกแฝดวัยซน ย้อนถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ลูกน้อยเมื่อครั้งเป็นทารกว่า ส่วนตัวเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เช่น การเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดที่ศรีษะและคอยังไม่แข็งแรง ก็จะต้องเลือกที่มีชุด Support รองคอและหลัง รองลงมาคือฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ โดยเน้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามวัยของลูกๆ เช่น รถเข็นเด็กก็เลือกที่สามารถปรับสรีระได้เหมาะสมตามช่วงวัย
การเลือกของให้ลูกใช่ว่าเป็นหน้าที่ของคุณแม่เสมอไป สำหรับบางครอบครัวคุณพ่อก็ร่วมแจมด้วยอย่าง "ป้อ" คนึงนิตย์
คงคาเจริญ ว่าที่คุณแม่ลูก 4 เล่าว่า ส่วนตัวเป็นพิถีพิถันในการเลือกของให้ลูก ต้องเลือกดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด เรียกว่าเสิร์ชหาข้อมูลแน่นก่อนตัดสินใจซื้อ จนกว่าจะรู้สึกมั่นใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ที่มีฟังก์ชั่นมาก จะมีสามี ("ตั้ม"ธเนศ) ช่วยหาข้อมูลมาประกอบการเลือก
"บางทีเสิร์ชไปจนถึงเว็บต่างประเทศว่าของชิ้นนี้ผลิตที่ไหน ยิ่งถ้าผลิตภัณฑ์ไหนมีงานวิจัยรองรับก็จะมีผลต่อการเลือกของเรา และถ้าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นมีส่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยก็จะพิถีพิถันมากขึ้น เช่น เมื่อลูกเล็กๆ การตื่นการนอนก็จะยังไม่เป็นระบบเวลาเลือกรถเข็นก็จะเลือกที่โครงสร้างแข็งแรง ไม่สั่นสะเทือน รวมไปถึงคาร์ซีท ซึ่งเราจะให้ความสำคัญว่ารองรับแรงกระแทกได้ดีที่สุด อย่างตัวล็อคจะไม่เน้นเท่าไร เพราะทารกไม่สามารถเปิดออกเองได้อยู่แล้ว หรืออย่าง เปลเด็ก หรือโต๊ะทานข้าว ก็จะเน้นมัลติฟังก์ชั่น เช่น ปรับเป็นทั้งเปลเด็ก เป็นเก้าอี้ทานข้าวได้ด้วย"
ด้าน "เก๋" โสภิณ รองรัตน์ อีกหนึ่งคุณแม่นักธุรกิจ ย้อนถึงประสบการณ์การเลือกของให้ลูกคนแรกว่า ตอนนั้นจะระมัดระวังเป็นพิเศษ ศึกษาข้อมูลแน่นมาก ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง ทั้งอ่านจากหนังสือและอินเตอร์เน็ต ดูหมดทั้งแบรนด์ที่ใช้แล้วปลอดภัย น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย มีมาตรฐานการรับรอง "ส่วนหนึ่งจะอ่านรีวิวประกอบด้วย ส่วนตัวเก๋จะซีเรียสกับการเลือกรถเข็นเด็ก เพราะว่าเด็กเล็กๆ ที่ระบบทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่เต็มที่ ต้องเลือกรถเข็นแบบที่ปรับให้นอนราบได้ เพราะจะเป็นท่านอนที่สบาย และเลือกที่คุณภาพมาตรฐาน น้ำหนักเบา เพราะต้องหิ้วขึ้นรถไปต่างจังหวัดหรือไปต่างประเทศได้ด้วย"
นอกจากนี้ คุณแม่ยังสวยอย่าง นันทนัช มงคลรัตนชาติ ให้มุมมองว่า ผิวหนังของทารกที่บอบบางแพ้ง่าย และระบบปรับอุณหภูมิในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ รถเข็นที่เลือกใช้ก็ต้องระบายอากาศได้ดี และมีฉนวนกันความร้อนและช่องระบายอากาศที่ด้านหลัง ส่วนตัวจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานวิจัยรองรับ แต่ถ้าจะตัดสินใจซื้อต้องไปเห็นของจริงด้วย โดยการสอบถามจากพนักงานขายและไปเลือกสินค้าด้วยตัวเองจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
เกี่ยวกับ เบบี้ กิ๊ฟ
เบบี้ กิ๊ฟ ได้เริ่มต้นก่อตั้งขึ้นในปี 2552 จากการเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กในระดับพรีเมี่ยม โดยเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อาทิ รถเข็นเด็ก, คาร์ซีท (เก้าอี้นั่งนิรภัยในรถสำหรับเด็ก) และสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น เป้อุ้ม เตียงนอน แว่นตากันแดด และเก้าอี้ทานข้าว โดยคัดสรรแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ ได้แก่ อะปริก้า (APRICA) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่คิดค้นโดยกุมารแพทย์ อันดับหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น, อาเลเบเบ (AILEBEBE) แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญผลิตคาร์ซีทมามากกว่า 30 ปี จากประเทศญี่ปุ่น, ปรินซ์ แอนด์ ปรินซ์เซส (PRINCE & PRINCESS) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่พัฒนานวัตกรรม และรูปแบบการใช้งานตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ คุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม เป็นต้น