กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--โรงพยาบาลรามคำแหง
ถ้าหากเรามีอาการปวดแปลกๆ มีอาการคันและแสบร้อน คล้ายถูกไฟไหม้ มีตุ่มใสขึ้นเรียงเป็นแนว เราอาจจะกำลังเป็นโรคงูสวัดอยู่ก็เป็นได้นะครับ
อันที่จริงแล้วโรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกับเชื้ออีสุกอีใสที่เราเคยได้รับมาตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากที่เป็นผื่นอีสุกอีใสแล้วเชื้อไวรัสนี้จะไปหลบซ่อนตามปมประสาทของร่างกาย โดยไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติใดๆ เมื่อเราอายุมากขึ้นหรือเมื่อร่างกายอ่อนแอผื่นก็จะกำเริบขึ้นมาตามเส้นประสาทที่เชื้อนั้นแฝงตัวอยู่นั่นเองครับ
อาการเริ่มแรกจะรู้สึกเหมือนเป็นไข้หวัด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกายหรือเจ็บแสบร้อนบริเวณผิวหนัง จากนั้นจะเริ่มมีผื่นแดงเป็นทางยาวตามแนวเส้นประสาทของร่างกาย เช่น ลำตัว แขน ขา แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณลำตัว หลังเกิดผื่นหนึ่งวันจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและตกสะเก็ด ประมาณ 1-2 สัปดาห์และหายไปเองได้ แต่อาการปวดตามแนวเส้นประสาทอาจจะยังอยู่เป็นสัปดาห์หรือหลายเดือนเลยก็ได้ และอาการจะรุนแรงขึ้นในผู้ที่มีอายุมากขึ้นอีกด้วยครับ
โรคงูสวัดเป็นโรคที่สามารถรักษาหายภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ในบางคนที่เริ่มการรักษาช้า อาจมีอาการปวดเส้นประสาทเรื้อรังได้นานเป็นปี และในบางภาวะโรคงูสวัดสามารถกลายเป็นโรคที่มีความรุนแรงจนเกิดอันตรายถึงขั้นพิการ หรือเสียชีวิตได้เลยนะครับ หากเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะสำคัญอย่างเช่นดวงตา หรือเยื่อหุ้มสมอง
หากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าจะเป็นงูสวัด ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ส่วนการป้องกันโรคงูสวัดนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งควรได้รับการฉีดในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง อาจจำเป็นต้องได้รับการฉีดก่อนอายุ 60 ปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหรือลดความรุนแรงของอาการลงได้ครับ
รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เท่านี้ร่างกายของเราก็จะมีภูมิต้านทานและห่างไกลจากโรคงูสวัดแล้วครับ