กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--เอ พับลิซิสท์
สมิติเวช ชูความเป็นเลิศในทุกมิติ คว้ารางวัลโรงพยาบาลที่มีการพัฒนาก้าวไกลที่สุดในประเทศ จากเวที รางวัลระดับนานาชาติ Asian Hospital Management Awards (AHMA) เดินหน้าเป็นองค์กรแห่งคุณค่าด้วยแนวคิด "เราไม่อยากให้ใครป่วย" ใช้นวัตกรรมให้ผู้รับบริการ รู้เท่าทัน-สกัดกั้น-วางแผน เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม
นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาล บีเอ็นเอช กล่าวว่า การได้รับรางวัล เป็นโรงพยาบาลที่มีการพัฒนาก้าวไกลที่สุดในประเทศ (The Most Improved Hospital in Thailand) จาก Asian Hospital Management Awards (AHMA) ก็ด้วยผลงานการบรรลุวิสัยทัศน์องค์กรในการเป็น "Hospital of Choice" โรงพยาบาลที่สามารถครองใจผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้องค์กรเจริญเติบโตในทุกด้าน (Stakeholder) รวมทั้งแนวคิดการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคมและประเทศด้วยคอนเซปต์ #เราไม่อยากให้ใครป่วย
การบรรลุวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรที่ครองใจและเป็นที่ไว้วางใจของทุก Stakeholder อันประกอบด้วย 1.ผู้รับบริการ 2.แพทย์ 3.เจ้าหน้าที่ 4.สังคม และ 5.ผู้ถือหุ้น เป็นผลมาจากการบรรลุดัชนีชี้วัดต่างๆ อันได้แก่
ด้านผู้รับบริการ
- คะแนนการแนะนำคนรู้จักและผู้อื่นให้มาใช้บริการสมิติเวช (Net Promoter Score) สูงถึง 96% จากเดิม 80% เท่านั้น
- คะแนนความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้รับบริการ Empathic score สูงถึง 4.85 จากเดิม 4.16
ด้านเจ้าหน้าที่องค์กร
- คะแนนความสุขที่ได้มาอยู่ร่วมกับองค์กรสมิติเวชสูงถึง 81% จากเดิม 65% โดยมาตรฐานการชี้วัดคะแนนความสุขสากลอยู่ที่ 65%
รวมถึงการสนองต่อความต้องการของชุมชนด้วยการทำ CSR อย่างต่อเนื่อง และการตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น ซึ่งให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกปี
ในด้านการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคม และประเทศชาติ นายแพทย์ชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดประสงค์ของแนวคิดนี้ อันสืบเนื่องมาจากปัญหาของผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งเมื่อผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อ GDP (Gross Domestic Product) ของประเทศซึ่งกระทบต่อการพยุงเศรษฐกิจชาติ
ทำให้กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ปรับ Business Model ใหม่ด้วยแคมเปญ #เราไม่อยากให้ใครป่วย โดยนอกจากการรักษาของสมิติเวชที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น World's Best Hospital แล้ว เราปรับจุดเปลี่ยนสู่การสกัดกั้นไม่ให้เกิดโรคทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงการทำ Health Promotion เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแบบองค์รวม
นอกจากนี้ การใช้นวัตกรรมดูแลสุขภาพ Precision Medicine เทคโนโลยีตรวจวิเคราะห์ระดับยีนเฉพาะบุคคล สามารถเจาะลึกได้ทุกโรค เพื่อบ่งบอกความเสี่ยงการเกิดโรคได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ในครรภ์ สามารถสกัดกั้นโรคต่างๆ ตั้งแต่ก่อนคลอด หรือแรกเกิด ทำให้ทุกชีวิตเกิดมาอย่างมีคุณภาพและปลอดโรคตั้งแต่เริ่มแรก
เพราะ #เราไม่อยากให้ใครป่วย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพต่างๆ ข้างต้นจึงมุ่งเน้นให้ผู้คนไม่เจ็บป่วย อันจะช่วยลดความทุกข์ทรมานจากโรคที่เกิด ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษา หรือ Healthcare cost โดยรวมลดลง ช่วยให้ GDP ของประเทศดีขึ้นเมื่อสุขภาพดีขึ้น และนี่คือการสร้าง "องค์กรแห่งคุณค่า" (Organization of Value) มากกว่าการเป็นแค่ องค์กรแห่งความสำเร็จ (Organization of Success)
นอกจากนี้ สมิติเวช ยังได้นำระบบดิจิทัลผนวกรวมกับการให้บริการทางการแพทย์ พัฒนาแอปพลิเคชัน "สมิติเวช พลัส" (Samitivej Plus) เพื่อสนองต่อปัญหาของผู้รับบริการในด้านการรอคอย โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถลดการรอคอยในทุกขั้นตอนได้มากกว่าครึ่ง
ทั้งหมดนี้ คือ การพลิกมิติใหม่ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเก่าของประชาชน สร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติดังได้กล่าวข้างต้น