กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือกรุงศรี และบริษัท ไรส์ จำกัด ประสบความสำเร็จในโครงการกรุงศรี ไรส์ (Krungsri RISE) Batch 3 ดึง 10 สตาร์ทอัพจากไทยและอาเซียน ร่วมบ่มเพาะศักยภาพและความเชี่ยวชาญสู่เวทีระดับโลก พร้อมจับมือพัฒนาโครงการเสริมความแข็งแกร่งให้ภาคธุรกิจไทย
หลังจากเปิดโครงการ Krungsri RISE Batch 3 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ต้อนรับทีมสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีทางการเงินที่หลากหลายจากทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในอาเซียนกว่า 90 ทีม และได้รับเกียรติจากหน่วยงานและพันธมิตรทางธุรกิจของกรุงศรีเข้าร่วมเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาและคัดเลือก ล่าสุดมีทีมที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 10 ทีม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว Krungsri RISE
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ กรุงศรี ฟินโนเวต กล่าว "ความสำเร็จในปีที่ 3 ของโครงการ Krungsri RISE คือการได้มีโอกาสเปิดรับสตาร์ทอัพจากทั้งในประเทศ และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยหัวใจสำคัญของ Krungsri RISE Batch 3 อยู่ที่การเชื่อมต่อธุรกิจโดยตรง ซึ่งทีมสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมดนี้ สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการนำเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญมาประยุกต์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกรุงศรี รวมถึงพันธมิตรเพื่อให้เกิดธุรกิจจริง"
โครงการที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เช่น การทดลองนำฐานข้อมูลรูปแบบใหม่โดยใช้คำถามเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน มาใช้เสริมในการวิเคราะห์พฤติกรรมความตั้งใจชำระหนี้ของผู้มาขอสินเชื่อ หรือการนำ Chatbot มาใช้ในงานด้านการสรรหาและคัดสรรบุคลากร (HR Recruitment) เป็นต้น นายแซมกล่าวเพิ่มเติม
"โครงการ Krungsri RISE ได้มอบองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนวงการสตาร์ทอัพ ขณะเดียวกัน กรุงศรี ฟินโนเวต เองได้ค้นพบและเรียนรู้แนวทางที่จะช่วยธุรกิจสตาร์ทอัพได้ดียิ่งขึ้นด้วยรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม จากเดิมโครงการจะมุ่งเน้นไปที่สตาร์ทอัพด้าน FinTech และ InsurTech แต่ใน Batch 3 นี้ เราได้เปิดรับสตาร์ทอัพจากด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ AI, Chatbot, Big Data, Blockchain, Robo-advisory หรือแม้แต่ HRTech และเปิดรับทีมสตาร์ทอัพจากประเทศอื่นๆ เพื่อยกระดับการนำโซลูชั่นส์ที่หลากหลายมาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ในประเทศไทย" นายแซม กล่าว
ก่อนหน้านี้ โครงการ Krungsri RISE Batch ที่ 1 และ 2 นั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยที่ผ่านมา กรุงศรี ฟินโนเวต ได้ต้อนรับทีมสตาร์ทอัพดาวรุ่งจำนวนมากเพื่อเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ Finnomena, Refinn, Baania, ChomCHOB, AppMan, Refinn, AIYA, QueQ, Zipevent และ Horganice ซึ่งผลสำเร็จที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นว่าเรามีแนวทางการทำงานร่วมกับทีมสตาร์ทอัพที่มีความหลากหลากหลายได้อย่างราบรื่น
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย ด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานกว่า 74 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 701 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 664 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 8.7 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ "แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,300 แห่ง ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 150,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้ง MUFG Bank, Ltd. มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้
โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น "กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก" ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก