ตลาดตราสารหนี้ BEX ซื้อขายเพิ่มกว่า 600% เดินหน้าเชื่อมต่อระบบซื้อขายตราสารหนี้กับต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2008 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ม.ค.--ตลท.
มูลค่าซื้อขายตราสารหนี้ใน BEX เพิ่มขึ้นร้อยละ 616 เผยกำลังศึกษาอุปสรรคการออกหุ้นกู้ภาคเอกชน เร่งหนุนภาคเอกชนใช้ตราสารหนี้เป็นช่องทางระดมทุน หลังมีตราสารหนี้ภาคเอกชนเข้าจดทะเบียนเพียง 10% และเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ 90% พร้อมเร่งผลักดันการลดภาษีสำหรับผู้ลงทุนบุคคล
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดตราสารหนี้ BEX (Bond Electronic Exchange) จะเดินหน้าพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยให้เป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และเป็นทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
“ในปี 2550 มีตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนใน BEX 3.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปี 2549 ที่มี ตราสารหนี้เข้าจดทะเบียนทั้งสิ้น 3.5 ล้านล้านบาท โดยปัจจุบันมีมูลค่าคงค้างรวมประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท โดยร้อยละ 90 เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐ ขณะนี้ BEX กำลังศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคของการออกหุ้นกู้ภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้เอกชนใช้ตราสารหนี้เป็นช่องทางการระดมทุนมากขึ้น รวมทั้ง เพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดด้วย นอกจากนี้ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและซื้อขายตราสารหนี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2551 ซึ่งน่าจะมีส่วนสนับสนุนการระดมทุนด้วยเช่นกัน” ดร.สันติกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2551 BEX มีแผนพัฒนาระบบ Firsts (Fixed Income and Related Securities Trading System) ซึ่งเป็นระบบที่รองรับธุรกรรมการซื้อขายสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ให้เป็นระบบซื้อขายที่ครบวงจร และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด เช่น การเชื่อมระบบต่อตรงกับระบบการชำระราคาและส่งมอบของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และ การตกลงระดับรัฐบาลในการเชื่อมต่อระบบซื้อขายตราสารหนี้ระหว่างไทยและสิงคโปร์ภายในปี 2553 อันจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง BEX ยังคงผลักดันการขจัดอุปสรรคเรื่องภาษีสำหรับผู้ลงทุนบุคคล และการสร้างเครื่องมือในการวิเคราะห์และบริหารพอร์ตลงทุน
สำหรับภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในปี 2550 (ม.ค. — พ.ย. 2550) มีการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาทภายในประเทศ มูลค่ารวมประมาณ 5.78 ล้านล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 122.06 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยร้อยละ 81 เป็นการระดมทุนของภาครัฐในรูปของตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรหน่วยงานของรัฐ และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน (รวมตราสารหนี้ระยะสั้น หรือ Commercial Paper) มีมูลค่าการออกหุ้นกู้ใหม่ทั้งสิ้น 1.087 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 50.87 นอกจากนี้ ยังมีตราสารหนี้สกุลเงินบาทที่ออกโดยองค์กรระหว่างประเทศ (Foreign Bond) มูลค่าประมาณ 7.4 พันล้านบาท
สำหรับภาคธุรกิจที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้มากที่สุด ได้แก่ ภาคการเงินการธนาคาร รองลงมา คือ ภาคพลังงาน บริษัทประกันภัย ธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสาร ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง และธุรกิจขนส่ง ตามลำดับ
สำหรับภาวะการซื้อขายตราสารหนี้ใน BEX มีมูลค่ารวม 2.903 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 616 เมื่อเทียบกับปี 2549 ที่มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 4.06 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขายโดยสถาบัน 2.9 แสนล้านบาท และบุคคล 275.71 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในปี 2550 เท่ากับ 1,270 ล้านบาท เทียบกับปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ 168 ล้านบาทต่อวัน การซื้อขายยังคงกระจุกตัวในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐบาล และตั๋วเงินคลัง
ในปี 2551 กระทรวงการคลังได้วางแผนที่จะออกพันธบัตรภาครัฐจำนวนมาก เพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้ตลาดตราสารหนี้มีพันธบัตรรัฐบาลเพียงพอที่จะนำมาสร้างอัตราผลตอบแทนอ้างอิงของพันธบัตรรัฐบาล (Benchmark Yield Curve) ด้วย โดยคาดว่าในปี 2551 จะมีมูลค่าตราสารหนี้ภาครัฐออกสู่ตลาดแรกประมาณ 2.609 ล้านล้านบาท สำหรับหุ้นกู้ภาคเอกชน คาดการณ์ว่าในปี 2551 จะมีหุ้นกู้ภาคเอกชน (รวม Commercial Paper) ออกมาสู่ตลาดตราสารหนี้ มูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดยช่วงต้นปีหน้าภาคธุรกิจจะเร่งระดมทุนมากขึ้น เพราะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ โดยภาคธุรกิจที่ต้องการเงินทุนจะมาจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ธุรกิจเช่าซื้อ และการเงินการธนาคารเป็นหลัก
“บรรยากาศการออกตราสารหนี้ในปี 2551 คาดว่าจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 เพราะเชื่อว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงกลางปี นอกจากนี้ หากธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาประกาศยกเลิกการใช้มาตรการกันสำรองเงินทุนร้อยละ 30 กับตลาดตราสารหนี้ ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไม่มากก็น้อย” ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ BEX กล่าวเสริม
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร.0-2229—2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049/ วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ