กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--มายด์ พีอาร์
"ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ได้นำมาถ่ายทอดผ่านผลงานการประกวดภาพวาด ภาพยนตร์สั้น และโมเดลศาสตร์พระราชา ใน "โครงการปลูกจิตสำนึก รู้คุณแผ่นดิน ปีที่ 7" ที่จัดขึ้นโดยกรมกิจการพลเรือน ทหารบก ประจำปี 2561 เพื่อเข้าถึงความหมายของ "ศาสตร์และศิลป์แห่งการพึ่งพาตนเอง" เป็นการ "สุขอย่างพอเพียงและยั่งยืน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระราชทานไว้เป็นมรดกชาติ และของปวงชนชาวไทย
การประกวดผลงานภาพวาด ภาพยนตร์สั้น และโมเดลศาสตร์พระราชา ตามโครงการปลูกจิตสำนึก ปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด "ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ในปีนี้ มีผู้ร่วมส่งผลงานเข้าชิงชัยจากเยาวชน คนรุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ้น 2,705 ชิ้นงาน แบ่งเป็น ผลงานการประกวดภาพวาด 2,473 ชิ้นงาน ซึ่งจัดประกวดรวม 5 ระดับ คือ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป ผลงานการประกวดภาพยนตร์สั้น 90 วินาที รวม 159 ชิ้นงาน แบ่งเป็นระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป และผลงานโมเดลศาสตร์พระราชาทั้งหมด 93 โครงงาน แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป และได้นำมาจัดแสดงในงานนิทรรศการ "รู้คุณแผ่นดิน" ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา
ด.ญ.อัยย์ลาณี แลงกาสแคนส์ นักวาดภาพรุ่นจิ๋ว นักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 จากสถาบันเกษตร อาร์ต สตูดิโอ ผู้ชนะเลิศภาพวาดในระดับประถมศึกษา ได้กล่าวถึงผลงานของตนเองว่า "หนูใช้เทคนิคสีไม้ สีน้ำ และจุดสีผสมกัน ได้วาดภาพบ้าน ต้นไม้ ที่นา ปลา และธรรมชาติในชนบทที่เรียบง่าย มีการเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงปลา และปลูกข้าวไว้กินเอง ตามเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 หนูรู้สึกดีใจที่ได้วาดภาพเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ค่ะ"
ส่วนภาพวาดชนะเลิศระดับประชาชน ซึ่งบอกเล่ารายละเอียดวิถีชีวิตชนบทไทย ผ่านการใช้เทคนิคงานพิมพ์แกะไม้ (woodcut) ก่อนพิมพ์ลงผืนผ้าที่รองพื้นด้วยดินสอพองผสมซึ่งเป็นเทคนิคส่วนตัว โดยเจ้าของผลงาน นายมานะชัย วงษ์ประชา ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจว่า "ผมได้เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักในการพัฒนาและผลักดันโครงการมากมายไปสู่ประชาชนที่อยู่ห่างไกลเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการในพระราชดำริฯ ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มและทำเพื่อพัฒนาภาคอีสานมากมาย ในฐานะลูกอีสานคนหนึ่งจึงอยากสะท้อนให้เห็นภาพผู้คนในชนบทที่ดำรงชีวิตอย่างมั่นคง และยั่งยืน เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ตลอดจนความสุขที่เกิดจากการน้อมนำหลักของการพึ่งพาตัวเองที่ได้ทรงชี้ทางไว้มาเป็นแนวในการดำเนินชีวิต"
ด้านรางวัลชนะเลิศภาพยนตร์ 90 วินาที่ ในระดับอุดมศึกษา เป็นของทีมแก้วตาดวงใจ จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพทรงเปียโนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "ซิมโฟนี ออน ดิวตี้ (Symphony on Duty)"
นายคุณาวุธ กุณานัย ตัวแทนจากทีมแก้วตาดวงใจ กล่าวว่า "ต้องการสื่อ "ให้คนไทยทุกคนรู้จักและทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง" เปรียบคนไทยหนึ่งคนเสมือนโน้ตดนตรีหนึ่งตัว ถ้าโน้ตแต่ละตัวต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยการบรรเลงให้ถูกต้องตรงตามจังหวะ ก็จะสามารถสร้างสรรค์บทเพลงที่มีความไพเราะได้ คนไทยทุกคนก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร ประกอบอาชีพอะไร หรืออยู่ที่ไหนในประเทศไทย ขอเพียงให้เราต่างคนต่างรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และทำหน้าที่นั้นอย่างถูกต้อง อย่างเต็มความสามารถ ย่อมมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างงดงาม โดยในการถ่ายทำ เราใช้ภาพแต่ละภาพในการบอกเล่าการทำหน้าที่ของผู้คนแต่ละอาชีพ นำมาร้อยเรียงต่อกันจนกลายเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ และด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ "ซิมโฟนี ออน ดิวตี้" ที่แต่งขึ้นเอง"
สำหรับ "โมเดลศาสตร์พระราชา" ซึ่งจัดประกวดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นการประกวดรูปแบบใหม่ที่เน้นการนำหลักวิชาของพระองค์ท่าน ไปสู่ "การคิดค้นโครงงานที่ปฏิบัติได้จริง" และ "เกิดผลสัมฤทธ์ที่เป็นรูปธรรม"หนึ่งในโครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษา เป็นผลงานสร้างสรรค์จากน้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 จากโรงเรียนบางประกอกวิทยาคม ในชื่อโครงงาน "วอล์คเกอร์ แชร์ (Walker Chair)" หรือ เก้าอี้พยุงเดินสำหรับผู้สูงอายุ
นายธนากร ทวีปัญญานุกูล อธิบายถึงโครงงาน "วอล์คเกอร์ แชร์" ว่า "มองว่าแนวโน้มของประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาการเดินที่ค่อนข้างลำบาก ไม่คล่องตัว วอล์คเกอร์ แชร์ ที่ขายในท้องตลาดมีราคาสูง จึงร่วมกันกับเพื่อนๆ อีก 9 คน คิดโครงงานประดิษฐ์ วอล์คเกอร์ แชร์ จากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัสดุเบา หาได้ในท้องถิ่น และมีราคาไม่แพง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สูงอายุที่พอมีกำลังทรัพย์หาซื้อไว้ใช้ได้เอง รวมทั้งเป็นการแบ่งเบางบประมาณรัฐในการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับผู้สูงอายุที่ขาดทุนทรัพย์ หรือมีฐานะยากจน"
ผลงานข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานที่ร่วมกันถ่ายทอด"ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ที่เน้นการลงมือทำ จากมุ่มมองของเยาวชน และคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมใจกันถ่ายทอดและน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ อีกทั้งยังซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
ผลงานที่ได้รับรางวัลและกิจกรรมความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในโครงการปลูกจิตสำนึก รู้คุณแผ่นดิน สามารถดูเพิ่มเติม ได้ที่ www.thailandwakeup.com หรือเฟซบุ๊ค fb: thailandwakeup