กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--เอบีเอ็ม
ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ธนาคารแห่งเดียวที่เชี่ยวชาญด้านการให้บริการลูกค้ารายย่อย พร้อมเป็นทางเลือกการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจัรายย่อยทั่วประเทศ ปักธงเดินหน้ายกระดับแบรนด์ และขยายฐานการเข้าถึงกลุ่มธุรกิจขนาดไมโครมากขึ้น โดยธนาคารไทยเครดิตฯ จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ของการเป็น "ธนาคารเพื่อรายย่อยที่ดีที่สุดในประเทศไทย"
ธนาคารไทยเครดิตฯ เป็นธนาคารที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ในการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยระดับนาโนและไมโครไฟแนนซ์ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมุ่งให้บริการผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อปรับปรุงธุรกิจและกระแสเงินสด ไม่ใช่เพื่อการบริโภค ธนาคารมีสาขาตั้งอยู่ในตลาดสดที่ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
ธนาคารไทยเครดิตฯ มุ่งเจาะ 2 กลุ่มลูกค้า โดยกลุ่มแรกซึ่งเป็นลูกค้าตลาดหลักของธนาคารไทยเครดิตฯ คือ กลุ่มลูกค้าผูประกอบการรายย่อย (นาโนและไมโครไฟแนนซ์) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของแบบดั้งเดิม หรือตลาดสดที่ซื้อมาขายไป ขายผลผลิตจากเกษตรกรไปสู่มือผู้บริโภคที่มาจับจ่ายในตลาด เป็นกิจการจำนวนมากที่กระจายตัวกันอยู่ นับเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้บริโภครายย่อยที่มาหาซื้อของที่ตลาดสดในแต่ละวัน
ผู้ประกอบการเหล่านี้ค้าขายมาเป็นเวลานานและเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนชุมชน ซึ่งแม้จะฐานะไม่ดีและได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ก็มุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ลูกค้ากลุ่มนี้มักต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเงินมากมาย เช่น กระแสเงินสดไม่เพียงพอ การสูญเสียรายได้เมื่อเจ็บป่วย และประสบกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ทำให้เกิดความจำเป็นต้องใช้เงินในครอบครัว พวกเขามักถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงินในระบบ หลายคนจึงเลือกใช้เงินกู้ที่มีค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ยสูง หรือจากแหล่งเงินกู้ที่ไม่เป็นทางการ รวมถึงผู้ให้กู้ยืมนอกระบบ
สำหรับลูกค้ากลุ่มที่สองของธนาคารไทยเครดิตฯ คือ กลุ่มลูกค้าไมโครเอสเอ็มอี ธุรกิจเหล่านี้บริหารงานโดยเจ้าของที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เป็นร้านที่ตั้งอยู่นอกตลาดสด เช่น ร้านขายยา คลินิกขนาดเล็ก ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ซึ่งปกติมักเป็นธุรกิจครอบครัวที่ทำธุรกรรมด้วยเงินสดเท่านั้น มีประวัติเครดิตคลุมเครือ และไม่มีการจัดทำงบการเงินอย่างเป็นระบบ พวกเขาต้องการที่จะขยายธุรกิจ แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และประสบปัญหากระแสเงินสดเป็นครั้งคราว
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจรายย่อยและธุรกิจไมโครเอสเอ็มอีหลายล้านแห่งเหล่านี้ เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย พวกเขาทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีประวัติการเงินที่แข็งแกร่งนัก นั่นคือเหตุผลหลักที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้หันไปพึ่งสินเชื่อในช่องทางที่ไม่เป็นทางการ เช่น เงินกู้นอกระบบ โรงรับจำนำ กู้ยืมจากเพื่อนหรือญาติพี่น้อง เพราะธนาคารในระบบไม่ให้ความสนใจและถูกละเลยจากสถาบันการเงินทั่วไป การได้สินเชื่อจากธนาคารไทยเครดิตฯ จึงช่วยให้พวกเขาสามารถจ่ายคืนเงินกู้จากเจ้าหนี้ที่ไม่เป็นทางการเหล่านั้นได้"
นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนเจ้าของธุรกิจรายย่อยที่ดีทุกราย ที่ต้องการปรับปรุงธุรกิจหรือกระแสเงินสดของตน ซึ่งลูกค้าสามารถสมัครขอใช้สินเชื่อสำหรับลูกค้านาโนและไมโครได้ที่สาขาของธนาคารซึ่งมีมากกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน หรือหลักประกัน กระบวนการให้สินเชื่อของธนาคารเป็นเรื่องง่ายและโปร่งใส ลูกค้าจะได้รับใบเสร็จรับเงินและการยืนยันทาง SMS สำหรับการชำระเงินกู้ทั้งหมด เพื่อให้สามารถเก็บบันทึกรายละเอียดของเงินกู้ได้ โดยผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคาร หรือ RMs จะไปพบปะลูกค้าอยู่เสมอ ลูกค้าจึงไม่ต้องเสียเวลาไปที่สาขา
"เราเข้าใจดีว่า ลูกค้าของเรามักจะไม่สามารถออกจากร้านค้าของพวกเขาได้ ดังนั้นผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคารจะแวะไปเยี่ยมเยียนลูกค้าและประเมินความต้องการทางธุรกิจของพวกเขา ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าก่อนที่จะให้สินเชื่อ เรามีนโยบายเคร่งครัดที่จะไม่เพิ่มภาระให้กับลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงินมากขึ้น ที่ธนาคารไทยเครดิตฯ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรา" นายรอยกล่าว
นายรอย กล่าวต่อไปว่า ธนาคารไทยเครดิตฯ เตรียมเดินหน้าสร้างการเติบโต โดยมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจรายย่อยที่มีศักยภาพซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยและมีโอกาสใช้ประโยชน์จากบริการของธนาคาร ให้สามารถเข้าถึงบริการเหล่านั้น ปัจจุบันธนาคารไทยเครดิตมีสาขามากกว่า 300 แห่ง และธนาคารมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 500 แห่งในปี 2562 ซึ่งผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคารพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าทุกคน
"วันนี้ธนาคารไทยเครดิตฯ ได้เปิดตัวแคมเปญสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เพื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบการรายย่อยและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้มากขึ้น ด้วยภาพยนตร์โฆษณา "ใครไม่เห็น เราเห็น" ภายใต้แนวคิด "ทุกคนคือคนสำคัญ" พร้อมเดินหน้าโครงการเพื่อสังคมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่เรียกว่า "โครงการพ่อค้าแม่ค้าพากเพียร รู้ขยัน รู้ออม รู้วินัย" โดยการจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อนาโนและไมโครไฟแนนซ์ เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่กิจการ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวในอนาคต" นายรอย กล่าว
ธนาคารไทยเครดิตฯ ได้รับรางวัลธนาคารเพื่อรายย่อยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2560 และ 2561 จากนิตยสาร Global Banking & Finance Review ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการเงินและธุรกิจชั้นนำของประเทศอังกฤษ ด้วยความโดดเด่นของธนาคารไทยเครดิตฯ ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วยกำไรสุทธิกว่า 100% ในช่วงเวลา 4 ปีระหว่างปี 2557 – 2560