กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--สยามกลการ
กลุ่มสยามกลการ: เทงบกว่า 2,122 ล้านบาท เตรียมเปิดสนาม 4 "News Course" (นิวคอร์ส) ชูคอนเซ็ป Traditional Natural Design ตอบโจทย์นักกอล์ฟทั่วโลก เนรมิตพื้นที่สยามคันทรีคลับพัทยาอีก 660 ไร่ ดันการท่องที่ยวเมืองพัทยา ยุคไทยแลนด์ 4.0 เลือก Schmidt-Curley Design, lnc. บริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นผู้ออกแบบ มั่นใจว่าจะเป็นสนามกอล์ฟที่ดีแห่งใหม่ในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ "สยามคันทรีคลับ พัทยา นิวคอร์ส" [Siam Country Club Pattaya New Course] รวมทั้ง 4 สนาม 81 หลุม นับว่าใหญ่ที่สุดในเมืองไทย คาดว่าเปิดบริการกันยายน 2019
ดร.พรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด เปิดเผยว่า "นับตั้งแต่ปี 1969 ที่ ดร.ถาวร พรประภา ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามกลการ จำกัด มีความหลงใหล ชื่นชอบ และให้ความสำคัญกับกีฬากอล์ฟเป็นอย่างมาก จึงได้ริเริ่มพัฒนาที่ดินกว่า 6,000 ไร่ ที่เมืองพัทยาในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ได้มีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคง โดยเฉพาะธุรกิจประเภทกีฬากอล์ฟนั้น ประสบความสำเร็จอย่างดีทั่วโลกต่างยอมรับ โดยเปิดโอกาสแก่นักกอล์ฟ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้มาอวดวงสวิงอย่างเต็มที่กับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1971 ภายใต้ชื่อ "สยามคันทรีคลับ" นับเป็นสนามกอล์ฟเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจในการจัดแข่งขันกอล์ฟหลายรายการอย่าง Thailand Open, Asian Golf Circuits หลายครั้ง จนถึงปัจจุบันได้เป็นสนามจัดการแข่งขันระดับโลกอย่าง Honda LPGA ติดต่อกันมากว่า 12 ปี จนได้รับขนานนามจากนักกอล์ฟทั่วโลกว่าเป็นสนาม WORLD CLASS มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง
สยามคันทรีคลับ เปิดบริการมากว่า 47 ปี มีนักกอล์ฟที่มีชื่อเสียงทั่วโลกให้ความสนใจ และมาสร้างประวัติศาสตร์ในเกมส์การแข่งขันกอล์ฟ ต่างยอมรับในมาตรฐานของสนาม และล่าสุดเมื่อปลายปี 2017 ทางสยามกลการ เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์แก่วงการกอล์ฟ และเพิ่มความมั่นใจแก่สิงห์นักกอล์ฟอีกครั้ง ด้วยการลงทุนเพิ่มอีก 2,122 ล้านบาท บนพื้นที่ 660 ไร่ พัฒนาพื้นที่สีเขียว เพื่อเพิ่มมูลค่าประเภทสันทนาการของกีฬากอล์ฟ และยังสนับสนุนการท่องที่ยวเมืองพัทยา ก้าวสู่โมเดลไทยแลนด์ยุค 4.0 โดยเลือก Schmidt-Curley Design, lnc. บริษัทที่มีชื่อเสียงกีฬากอล์ฟระดับโลก เป็นผู้ออกแบบสนาม, ก่อสร้างโดย บริษัท กอล์ฟอีส จำกัด, ออกแบบคลับเฮ้าส์ โดยบริษัท สำนักงานสถาปนิคกรุงเทพ จำกัด และก่อสร้างโดย บริษัท เอสเอ็มซีซี (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้ชื่อสนาม 4 คือ"สยามคันทรีคลับ พัทยา นิวคอร์ส" [Siam Country Club Pattaya News Course] ที่พร้อมเปิดบริการเดือนกันยายน 2019
"นิวคอร์ส" ชูแนวคิดความเป็น Traditional Natural Design ขนาด 18 หลุม 7,259 หลา, 72 พาร์ เน้นการออกแบบสนามที่ผสมผสานแบบย้อนยุคไปกับสภาพภูมิศาสตร์ ตามธรรมชาติของพื้นที่นั้นๆ การจัดวางหลุมในแต่ละจุดเน้นการสร้างความตื่นตา และน่าจะประทับใจ โดย HI-Light อยู่ที่หลุม 15, 16 และ17 ที่นักกอล์ฟจะต้องตื่นเต้นกับเกมส์ การเล่น รวมไปถึงการเล่นระดับ หรือมี 2 Fairways ในบางหลุม เพื่อเพิ่มความท้าทายให้นักกอล์ฟได้วางแผน และออกแบบให้นักกอล์ฟ มีทางเลือกในการเสี่ยงที่จะตี เปิดโอกาสให้ได้ทำสกอร์ และสร้างความทรงจำที่ดี นอกจากนี้ การออกแบบภูมิทัศน์ยังเน้นความหลากหลายของพันธุ์ต้นไม้ สนแห้งประดับ สวนพรรณไม้นานาพันธุ์และทั้งเป็นที่ลุ่มแฉะ (MARSH) และทราย พื้นที่เปิดกว้างรับวิวเทือกเขาที่เรียงรายสลับกัน เมื่อออกรอบจากหลุมแรกมาจนถึงหลุมสุดท้าย ก็จะพบความท้าทายยิ่งขึ้นด้วยการไต่ระดับทางลาดชันไปสู่จุดที่สูงที่สุดและทางลงมาบรรจบที่คลับเฮ้าส์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของสยามคันทรีคลับ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ในการออกรอบเป็นที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ สยามคันทรีคลับ พัทยา นิวคอร์ส เป็นสนาม WORLD CLASS เราคาดว่ากลุ่มลูกค้าหลักมาจาก นักกอล์ฟชาวเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี หรือ กลุ่มบริษัทต่างๆ ในไทย ที่จัดกิจกรรมกอล์ฟ เพื่อสานสัมพันธ์ด้านธุรกิจ รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าทางยุโรป และชาวออสเตรเลีย ซึ่งอัตราการเติบโตของนักกอล์ฟ ทั้ง 3 สนาม ได้แก่ Old Course, Plantation และ Waterside นับตั้งแต่ปี 2014-2017 (4 ปี) จำนวน 578,000 คน และในปี 2020 อัตราการเติบโต จะอยู่ที่ 200,000 คน/ปี เพิ่มขึ้น 35% เนื่องจากสยามคันทรีคลับ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ทางด้านฝั่งเทือกเขา อีกทั้ง พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นศูนย์รวมกีฬานานาชนิด [Sports Destinations] ไม่ไกลจากเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร และสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เดินทางสะดวกด้วย Motor ways จึงเป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมั่นใจว่าสนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ ทั้ง 4 สนาม รวม 81 หลุม นับเป็นอาณาจักรสนามกอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้ที่มีความสมบูรณ์ทั้งธรรมชาติ–สิ่งแวดล้อมดีที่สุดในเมืองไทย และหนึ่งเดียวเอเซีย
สิ่งอำนวยความสะดวก:
- อาคารสโมสร หรือคลับเฮาส์ (Club House) ออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของสนามกอล์ฟเน้นความหรูหรา สง่างาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญ สถาปัตยกรรมตัวอาคารที่ภายนอกมองดูอบอุ่น สงบ และเรียบหรูได้รับการตกแต่งอย่างประณีตสวยงามมีกลิ่นอายของความเป็นไทยประยุกต์ได้อย่างลงตัวสามารถแบ่งห้องได้ตามความเหมาะสม มองเห็นทิวทัศน์ และวิวสนามโดยรอบที่สวยงามอย่างชัดเจน
- Pro-Shop มีเสื้อผ้า และอุปกรณ์กอล์ฟชั้นนำทุกชนิดที่มีคุณภาพไว้คอยบริการแก่นักกอล์ฟ
ให้เลือกชม เลือกซื้อ ได้ตามความพึงพอใจ
- Locker ได้ออกแบบมาอย่างโอ่โถง กว้างขวางสะดวกสบายแก่นักกอล์ฟ
เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่ลานจอดรถ 180 คัน
- โรงจอดรถกอล์ฟ 180 คัน
- สโมสรแคดดี้ 1,191 ตารางเมตร
หลุมเด่น : Signature Hole อยู่ที่หลุม
- 15 พาร์ 5 ระยะ 602 หลา
- 16 พาร์ 3 ระยะ 150 หลา
- 17 พาร์ 4 ระยะ 352 หลา
สภาพแวดล้อมโดยรวมของ "นิวคอร์ส" : พื้นที่โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ล้อมรอบด้วยเทือกเขา สภาพภูมิอากาศชุ่มชื้นเย็นสบายทำให้นักกอล์ฟรู้สึกผ่อนคลายได้รับอากาศที่สดชื่นตลอดเวลาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีนกสายพันธุ์ต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากสร้างความเพลิดเพลินเวลาออกรอบ พันธุ์ไม้ต่างๆ จะแบ่งเป็น 3 โซน โดยโซน 6 หลุมแรก จะเป็นไม้สนนานาชนิด ถัดมาอีก 6 หลุม จะเป็นพันธุ์ไม้ดอกมีสีสันสวยงาม เช่น ชงโค หมันแดง (คอร์เดีย) และ 6 หลุมสุดท้าย จะเป็นไม้ใหญ่ เป็นไม้เมืองร้อน ซึ่งเรามั่นใจว่า Layout สนามและภูมิทัศน์โดยรอบสามารถดึงดูดใจนักกอล์ฟทั้งที่เป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจชาวไทย ชาวต่างชาติที่ทำงานมีครอบครัว และอาศัยอยู่ไม่ไกลจากเมืองพัทยาหรือผู้ประกอบการในพื้นที่ใกล้เคียงที่ชื่นชอบกีฬาการเล่นกอล์ฟ
การเดินทาง: นับเป็นหัวใจสำคัญเนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่ดีอยู่ในพื้นที่ ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พัทยา เลือกใช้เส้นทางจากกรุงเทพมหานคร หรือจากสนามบินสุวรรณภูมิใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที, จากตัวเมืองพัทยาประมาณ 15 นาที, จากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ประมาณ 20 นาที, จากศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประมาณ 30 นาที และจากระยอง ประมาณ 30 นาที
ดร.พรเทพ กล่าวเพิ่มเติม "นับตั้งแต่ปี 2004 กลุ่มสยามกลการ ได้ริเริ่มการพัฒนาที่ดินผืนใหญ่ที่มีอาณาเขตในเมืองพัทยาเพื่อให้เป็นพื้นที่ผืนเดียวกัน โดยได้มองเห็นการเติบโตของธุรกิจ และทุกภาคส่วนในเมืองพัทยา อาทิ การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว, การเติบโตของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ, โครงการศูนย์การค้า และ ในอยาคตยังมีเส้นทางคมนาคมใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง–พัทยา) นอกจากนี้ ที่สนามกอล์ฟ สยามคันทรีคลับ พัทยา แพลนเทชั่น ยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ พริอมรถบริการโดยเฉพาะ รองรับความต้องการนักกอล์ฟ-นักท่องเที่ยว–นักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างเพียงพอ รวมถึง ยังส่งเสริมการเติบโตของวงการกีฬากอล์ฟในประเทศไทย" ดร.พรเทพ กล่าวในที่สุด
"สยามคันทรีคลับ" สนามกอล์ฟระดับ "World Class" ทั้ง 4 สนาม 4 ความรู้สึก รวมทั้งสิ้น 81 หลุม ประกอบด้วย Old Course 18 หลุม , Plantation 27 หลุม , Waterside 18 หลุม และ New Course 18 หลุม การันตีความเป็นมาตรฐานสากลระดับโลก และเชื่อว่าจะดึงดูดใจนักท่องเที่ยว และนักกอล์ฟเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญ สยามคันทรีคลับ คือ สนามกอล์ฟที่ดีที่สุดในเมืองไทย และเป็นหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก สนใจสอบถามเพิ่มเติมและจองกอล์ฟได้ที่ Call Center 038 - 909 700 หรือ E-mail : rsvn@siamcountryclub.com
ข้อมูลเบื้องต้น 3 สนาม
- ปี 2006 ปรับปรุงสนามกอล์ฟ Old Course เปิดบริการเมื่อปี 2007 และเปลี่ยนชื่อเป็น Siam Country Club Pattaya Old Course 18 หลุม ท่ามกลางบรรยากาศท้าทายอยู่ในหุบเขา ได้รับเลือกเป็นสนามแข่งขันกอล์ฟสตรีระดับโลก รายการ HONDA LPGA THAILAND ตั้งแต่ปี 2007-2018 ติดต่อกัน 12 ปี
- ปี 2007 ก่อสร้างสนาม 2 เปิดบริการเมื่อปี 2008 ใช้ชื่อว่า Siam Country Club Pattaya Plantation 27 หลุม มองเห็นวิวแบบ Panorama View สร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ถูกเผยแพร่เรื่องกีฬากอล์ฟที่มีมาตรฐานสากล โดยทั้ง 2 สนามได้สร้างมิติใหม่แก่วงการกอล์ฟเมืองไทยและในเอเชีย ได้รับการยกย่องจากสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก จนได้รับรางวัล และเกียรติบัตรมากมายจนได้รับการยกย่องจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก
- ปี 2012 เปิดสนาม 3 ชื่อ Siam Country Club Pattaya Waterside 18 หลุม สนามนี้ได้รวมไว้ซึ่งความแปลกใหม่ ท้าทาย ตื่นเต้นกับความสามารถเต็มอิ่มกับการออกรอบ วิวทิวทัศน์ บรรยากาศร่มรื่นสวยงามเลียบขอบอ่าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- ทำเนียบแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ผ่านมา ได้แก่ อาทิ ฮี วอน-ฮาน จากเกาหลีใต้ (ปี 2006) ซูซานน์ เพตเตอร์เซ่น จากนอรเวย์ (ปี 2007), ลอรีนา โอชัว จากเม็กซิโก (ปี 2009), ไอ มิยาซาโตะ จากญี่ปุ่น (ปี 2010) เจิ้ง หย่าหนี จากไต้หวัน (ปี 2011-2012) ปาร์ค อิน-บี จากเกาหลีใต้ (ปี 2013) , แอนนา นอร์ดควิสต์ จากสวีเดน (ปี 2014) เอมี หยาง จากเกาหลีใต้ (ปี 2015) เล็กซี่ ธอมป์สัน จากสหรัฐอเมริกา(ปี 2016) เอมี่ หยาง จากเกาหลีใต้ (ปี 2017) และ เจสซิก้า คอร์ด้า จากสหรัฐฯ (ปี 2018)