กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--กรมประมง
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากการที่กรมประมงได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นเอกสารและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง ก่อนนำเรือประมงพาณิชย์ออกจากท่าเทียบเรือประมง พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2560 ตามมาตรา 82 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบเรือประมงทั้งก่อนและหลังการออกทำประมง เพื่อป้องกันและขจัดการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย โดยมีศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (Port In-Port Out : PIPO Control Center) จำนวน 32 แห่ง และจุดตรวจส่วนหน้าอีก 19 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล เป็นหน่วยงานปฏิบัติการ มีเจ้าหน้าที่ชุดสหวิชาชีพจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย กรมประมง กรมเจ้าท่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมจัดหางาน ทำการตรวจตราเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจเรือประมง ตรวจความปลอดภัยของเรือ ตรวจสอบคนประจำเรือให้ถูกต้องตรงตามเอกสารทุกครั้งก่อนที่จะนำเรือออกไปทำการประมง รวมทั้งตรวจสอบความสอดคล้องของแรงงานขณะที่เรือกลับเข้าท่าหลังจากเสร็จสิ้นการทำประมงด้วยทุกครั้งว่ามีจำนวนและเป็นบุคคลเดียวกับที่ได้ออกไปทำการประมงหรือไม่เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งมีข้อกำหนดให้ชาวประมงต้องยื่นเอกสารจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคในการแจ้งเข้าออกทำการประมงในแต่ละครั้ง และหากมีข้อผิดพลาดชาวประมงอาจต้องถูกดำเนินคดีทั้งที่เป็นข้อผิดพลาดทางเทคนิค กรมประมงจึงได้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีการยื่นเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มีความรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ด้วยการนำระบบฐานข้อมูลมาช่วยตรวจสอบแทน อีกทั้ง ยังช่วยลดภาระในการยื่นเอกสารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวประมงได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
กรมประมงจึงได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นเอกสารและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกฯ ก่อนนำเรือประมงพาณิชย์ออกจากท่าเทียบเรือประมง ลงวันที่ 6 กันยายน 2561 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวประมงในการแจ้งเข้าแจ้งออกในการทำการประมง พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ และลดความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ก่อนนำเรือออกทำการประมง จากเดิมที่ต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกตามประเภทและลักษณะเรือ ถึง 12 รายการ แต่ตามประกาศฯ ฉบับใหม่กำหนดให้มีการยื่นเอกสารเหลือเพียง 6 รายการเท่านั้น ได้แก่ 1. สำเนาทะเบียนเรือไทย 2. สำเนาใบอนุญาตใช้เรือ 3. สำเนาใบอนุญาตให้ทำการประมง 4. จำนวนรายชื่อคนประจำเรือ 5. หนังสือคนประจำเรือ และ 6. หลักฐานเกี่ยวกับการจัดระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือ โดยเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือสามารถยื่นเอกสารได้ด้วยตนเอง หรือ ยื่นผ่านระบบ Single Window 4 Fishing Fleet ในเว็บไซต์ http://fpipo.md.go.th ทั้งนี้ การยื่นเอกสารดังกล่าวชาวประมงสามารถยื่นโดยทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ต้องยื่นในแต่ละครั้งที่มีการแจ้งออกทำการประมงอีกต่อไป ยกเว้นในส่วนของเอกสารจำนวนรายชื่อคนประจำเรือที่จะต้องยื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการแจ้งเข้าแจ้งออกทุกครั้งที่มีการนำเรือออกจากท่าเทียบเรือ เพื่อดูแลในเรื่องสวัสดิภาพของคนประจำเรือ
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า การปรับปรุงแก้ไขประกาศดังกล่าว นอกจากเป็นการอำนวยความสะดวกกับประชาชนผู้มาติดต่อราชการแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 21/2560 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ 4 เมษายน 2560 และตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ทั้งนี้ การลดจำนวนเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องยื่นต่อเจ้าหน้าที่ลงไปนั้นมิได้ทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ลดลงแต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นได้ครบถ้วนอยู่แล้ว