กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ประกาศเสริมทัพธุรกิจด้านไมโครไฟแนนซ์ด้วยการขายหุ้นสามัญของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กรุงศรีถือหุ้นร้อยละ 100) เป็นจำนวนร้อยละ 50 ให้กับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดย กองทุน CVC Capital Partners Asia Fund IV (CVC) และบริษัท Equity Partners Limited (EPL) โดยการผนึกกำลังในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในเครือกรุงศรีในการให้บริการสินเชื่อและผลิตภัณฑ์ประกันภัยแก่กลุ่มผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ
นายชวินทร์ เจียรวนนท์ Partner ของ Equity Partners Limited กล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ว่า "EPL มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ CVC และกรุงศรี ซึ่งถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญในตลาดการเงินของไทย ทั้งนี้ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ไม่เพียงเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ยังเป็นองค์กรที่สะท้อนคุณค่าหลัก (Core Value) ของเราในด้านวัฒนธรรมองค์กร ธรรมาภิบาล และช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตทางการเงินให้กับกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน"
นายไบรอัน ฮอง Managing Partner ของ CVC Capital Partners กล่าวว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับกรุงศรีและบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ซึ่งเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในศักยภาพและวัฒนธรรมองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการให้บริการของเงินติดล้อที่ได้ผลักดันให้เงินติดล้อเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยเราพร้อมให้การสนับสนุนเงินติดล้อให้บรรลุโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ"
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด กล่าวว่า "ผู้ถือหุ้นใหม่ของเราจะผสานความเชี่ยวชาญระดับโลกและความแข็งแกร่งระดับประเทศมาช่วยเสริมศักยภาพให้แก่เงินติดล้อ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ แนวทางการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ และโอกาสในการพัฒนาธุรกิจต่อไปข้างหน้า เพื่อช่วยให้เราสามารถให้บริการผู้บริโภคกลุ่มลองเทล (Long-tail Segment) ได้ดียิ่งขึ้น"
นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลของกรุงศรี กล่าวว่า "พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือทางธุรกิจครั้งสำคัญของกรุงศรี เรามีความเชื่อมั่นในกลุ่มธุรกิจ Consortium ที่นำโดย CVC และ EPL ที่จะร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของเงินติดล้อให้ก้าวหน้าต่อไป และยังเป็นการผสานพลังศักยภาพระหว่างกรุงศรีและกลุ่มธุรกิจ Consortium อีกด้วย"
ทั้งนี้ ธุรกรรมข้างต้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงว่าจะต้องดำเนินการก่อนได้กระทำเสร็จสิ้นแล้ว (completion of conditions precedent) รวมถึงการดำเนินการตามที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด และกรุงศรีได้แต่งตั้งธนาคาร ING Bank N.V. เป็นที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับการทำธุรกรรมในครั้งนี้
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด เป็นผู้นำตลาดด้านสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กรุงศรีถือหุ้นร้อยละ 100 ตั้งแต่ปี 2552 โดย ณ สิ้นปี 2560 เงินติดล้อมีสาขาจำนวนทั้งสิ้น 750 สาขาใน 74 จังหวัดทั่วประเทศไทย และมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้นจำนวน 24.6 พันล้านบาท
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานกว่า 73 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 701 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 664 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 8.7 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ "แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต" โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ภายใต้ชื่อทางการค้าและเครื่องหมายบริการ "เงินติดล้อ(R)" "ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ(R)" "ศรีสวัสดิ์ เงินสิบล้อSM" "สินเชื่อตลาดสดSM" และ "โบรกเกอร์ เงินติดล้อSM" ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภท สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (ภายใต้แบรนด์ "เงินติดล้อ(R)") และนายหน้าประกันวินาศภัย มีสาขาให้บริการทั่วประเทศมากกว่า 770 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 74 จังหวัด เน้นให้บริการแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้าหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร เป็นต้น ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการของสถาบันการเงินหลัก ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และยึดหลักปฏิบัติตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมาได้รับการยอมรับในระดับสากลผ่านรางวัลมากมาย อาทิ The Banker 2012 จากประเทศอังกฤษ, IDC Financial Insights Innovation 2015 และ 2018, The Asian Banker 2017, Retail Banker International 2018 จากประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น
เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,300 แห่ง
ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 150,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้ง MUFG Bank, Ltd. มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น "กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก" ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
เกี่ยวกับ ซีวีซี แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ ("CVC Capital Partners")
CVC Capital Partners เป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Equity) และที่ปรึกษาด้านการลงทุนชั้นนำซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 โดยปัจจุบันมีเครือข่ายสำนักงานทั้งหมด 24 แห่ง มีพนักงานรวมกว่า 490 คน ในทวีปยุโรป เอเชีย และประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ CVC ยังได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั่วโลก ทำให้ได้รับเงินทุน (commitment) จากนักลงทุนมากกว่า 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริหารสินทรัพย์มากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันนี้ กองทุนที่ CVC บริหารและให้คำปรึกษา ได้ลงทุนในกว่า 50 บริษัททั่วโลก โดยบริษัทที่ลงทุนไปทั้งหมดนั้นมีพนักงานรวมกว่า 212,000 คน ในหลากหลายประเทศ และมีรายได้รวมทั้งหมดเกินกว่า 74,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CVC เพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซท์ www.cvc.com
เกี่ยวกับ อิคิวตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ("EPL")
อิคิวตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Equity) ที่เน้นการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย EPL ก่อตั้งโดย แฮตตัน แคปปิตอล และ ทู ดับเบิ้ลยู กรุ๊ป โดยมีเป้าหมายการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ควบคู่กับธุรกิจของครอบครัว รวมไปถึงการใช้เครือข่ายของพาร์ทเนอร์ กลุ่มบริษัทในเครือ และใช้ประสบการณ์ในการปลดล็อกมูลค่าการลงทุน ปัจจุบัน EPL เน้นการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน ตลาดกลุ่มอุปโภคและบริโภค, อาหาร การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มโทรคมนาคม
ทู ดับเบิ้ลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจครอบครัวของตระกูลเจียรวนนท์
แฮตตัน แคปปิตอล ก่อตั้งโดยคุณดนัย ปฐมวาณิชย์ ซึ่งตระกูลปฐมวาณิชย์ เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายรถบรรทุกชั้นนำและเป็นเจ้าของธุรกิจเช่ารถบรรทุกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค