กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--สภาธุรกิจตลาดทุนไทย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงแผนการดำเนินงาน ปี 2561-2562 เตรียมผลักดันแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนกำหนดทิศทางและเป้าหมายระยะยาวในภาพรวม
นายไพบูลย์ กล่าวว่านโยบายการดำเนินงานของ FETCO ในปี 2561-2562 นี้ FETCO จะดำเนินการโดยมีแผนงาน 8 แผนงานหลักประกอบด้วย 1) เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย 2) จัดทำแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนไทย 3) ติดตามและปรับปรุงแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ 4) ขยายฐานนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย 5) เพิ่มความหลากหลายของตราสารและผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนให้มากยิ่งขึ้น 6) สร้างนักวิเคราะห์การลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มคุณภาพของตลาดทุน 7) สนับสนุนสมาชิกให้ความรู้ด้านการลงทุนขั้นพื้นฐาน (Investment Literacy) แก่ประชาชนทั่วไป และ 8) สนับสนุนสมาชิกในการพัฒนากลไกการทำงานและการนำนวัตกรรมมาใช้ในตลาดทุน
นโยบายการดำเนินงานของ FETCO ดังกล่าวเพื่อเป็นตัวแทนภาคเอกชนทุกองค์กรในตลาดทุนไทยร่วมกำหนดทิศทางและเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนาตลาดทุนไทย รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชน โดยเฉพาะการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนไทยเช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีความเห็นว่าตลาดทุนควรมียุทธศาสตร์ระยะยาว ที่เป็นเหมือนเข็มทิศให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในตลาดทุน ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้รับรู้ถึงเป้าหมายหลัก และร่วมเดินทางไปในทิศทางเดียวกัน การศึกษาความเป็นไปได้ในการออกกองทุนประเภทใหม่เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อสนับสนุนการออมระยะยาวรองรับสำหรับสังคมผู้สูงอายุและนำเสนอประเด็นให้หน่วยงานของรัฐพิจารณา การเสนอความเห็นเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมายหรือกฎเกณฑ์สำหรับสมาคม มูลนิธิให้สามารถลงทุนได้หลากหลายและกว้างมากขึ้น เช่นการอนุญาตให้มีการลงทุนผ่านกองทุนรวมได้ เป็นต้น การพิจารณาแนวทางดำเนินการร่วมกันในอุตสาหกรรมและภาครัฐออกไปเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อดึงนักลงทุนระยะยาว การผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์และสภาพคล่องในตราสารประเภทอื่นๆ เช่น High Yield Bond DR ETF หรือธุรกิจรองรับนวัตกรรม หรือ ESG เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน การผลักดันให้มีการจัดทำหน่วยงานกลางเช่น Investment Analyst Academy เพื่อสร้างนักวิเคราะห์รุ่นใหม่ เพิ่มจำนวนและความหลากหลายของบทวิเคราะห์ และผลิตงานวิเคราะห์ที่ได้มาตรฐานสากล การสนับสนุนสมาชิก FETCO ในการกำหนดทิศทางและกลุ่มเป้าหมายการให้ความรู้ด้านการลงทุนขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนทั่วไปเพิ่มเติมจากการให้ความรู้ด้านการเงิน การผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค รวมถึงสนับสนุนการกำหนดมาตรฐานทางเทคโนโลยีร่วมกันสำหรับ Platform ของบริการที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการระดมทุนและการลงทุน โดยการแสวงหาโอกาสและช่องทางในการทำธุรกิจรองรับนวัตกรรมการให้บริการและการเปลี่ยนแปลงของตัวกลาง ทำให้อุตสาหกรรมสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันที่สามารถเชื่อมโยงได้ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ FETCO กล่าวว่า "ตลาดทุนไทยมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายและการแข่งขันทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านขยายฐานนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว การเพิ่มความหลากหลายของตราสารและผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนให้มากยิ่งขึ้น การสร้างนักวิเคราะห์การลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มคุณภาพของตลาดทุน รวมทั้งการส่งเสริมให้ความรู้ด้านการลงทุนขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนทั่วไป และการพัฒนากลไกการทำงานและการนำนวัตกรรมมาใช้ในตลาดทุน นอกจากนี้ FETCO จะร่วมทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการติดตามและปรับปรุงแผนพัฒนาตลาดทุนไทยให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์อย่างใกล้ชิดมากขึ้นอีกด้วย"