กรุงเทพฯ--3 ม.ค.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ไทยและเกาหลีสามารถสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (ASEAN-Korea Free Trade Agreement: AKFTA) หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือเรื่องนี้มาเป็นเวลาเกือบ 10 เดือน ส่งผลให้ไทยได้เข้าร่วมเขตการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีที่มีมูลค่าการค้าสูงกว่า 62,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ปี 2549) ด้วย
นายนพดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สมาชิกอื่นๆ ของอาเซียนและเกาหลีได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าอาเซียน-เกาหลีไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2549 โดยไทยไม่เข้าร่วมการลงนามในครั้งนั้น เนื่องจากไม่สามารถบรรลุความตกลงเรื่องการเปิดตลาดสินค้ากับเกาหลีได้ ทั้งนี้ ความตกลงดังกล่าวได้เริ่มมีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 12 เมื่อเดือนมกราคม 2550 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยและรัฐมนตรีการค้าของเกาหลีได้ร่วมหารือและเห็นชอบให้ทั้งสองประเทศกลับมาเจรจากันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว โดยคณะเจรจาของทั้งสองประเทศได้เริ่มการหารือสองฝ่ายเมื่อเดือนเมษายน 2550 และได้หารือกันมาแล้วรวม 5 ครั้ง ใช้เวลาเกือบ 10 เดือน ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม 250 ณ กรุงเทพฯ และทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างกันได้ โดยไทยได้รับความยืดหยุ่นไม่ต้องลด/ยกเลิกภาษีตามรูปแบบการลดภาษีที่อาเซียนอื่นกับเกาหลีได้ตกลงกันแล้ว ซึ่งไทยสามารถขยายเวลาการลด/ยกเลิกภาษีสินค้าอ่อนไหวบางรายการออกไปได้อีกหลายปี จากปี 2553 และปี 2055 เป็นปี 2559/2560
สินค้าสำคัญของไทยที่ได้รับการขยายเวลาการลด/ยกเลิกภาษี ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง หนังดิบ หนังฟอก และผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง รวมทั้งสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังเกาหลีกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าการนำเข้าจากไทย (ปี 2549) จะได้รับการลดภาษี/ยกเลิกภาษี/โควตาปลอดภาษีทันทีที่ไทยดำเนินกระบวนการภายในและเริ่มบังคับใช้ความตกลงฯ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้า แผ่นชิ้น ไม้อัด กากน้ำอ้อย เส้นด้าย กุ้งแช่เย็น แช่แข็ง แป้งมันสำปะหลัง และปลาหมึก
“อาเซียนและเกาหลีได้เริ่มเจรจาเพื่อจัดทำเขตการค้าเสรีมาตั้งแต่ปี 2548 โดยผลการเจรจาเปิดเสรีการค้าสินค้าและเริ่มการลดภาษีสินค้าระหว่างกันมาตั้งแต่กลางปี 2550 นอกจากนี้ ยังสามารถบรรลุข้อตกลงการเจรจาความตกลงว่าด้วยการค้าบริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงว่าด้วยการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในปี 2551” นายนพดลกล่าว