กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--เวิรฟ
กลุ่มบริษัท เดมเลอร์ เอจี ประกาศแต่งตั้ง มร. โรลันด์ เซบาสเตียน โฟลเกอร์ ดำรงตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แทน มร.ไมเคิล เกรเว่ ที่ได้รับ การแต่งตั้งให้เป็น ประธานบริหาร ประจำประเทศไต้หวัน หลังจากดำรงตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556
มร. โรลันด์ เซบาสเตียน โฟลเกอร์ ในวัย 59 ปี ได้เข้ามาร่วมงานกับกลุ่มบริษัทเดมเลอร์ เอจี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 และปฏิบัติงานในหน่วยงานด้านการผลิต และจัดจำหน่ายอะไหล่ (Parts Organization) โดยมีส่วนร่วมสนับสนุนการย้ายโกดังเก็บอะไหล่ของกลุ่มบริษัทฯ ในหลายประเทศ และในปีพ.ศ. 2528 มร. โฟลเกอร์ ได้ย้ายไปปฎิบัติงานที่ฝ่ายขายรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรับผิดชอบตลาดประเทศอินโดนีเซียเป็นหลัก แล้วได้รับตำแหน่งประธานบริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ สำนักงานตัวแทน ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปีพ.ศ.2531-2532
ในปีพ.ศ. 2533 มร. โฟลเกอร์ได้รับการแต่งตั้งให้กลับไปปฎิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท เดมเลอร์ เอจี เพื่อรับผิดชอบด้านการขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วย คณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัม เดมเลอร์ เอจี ด้านการขาย และการตลาดของรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล ในปีพ.ศ. 2535 และในช่วงสิ้นปีพ.ศ. 2536-2538 มร. โฟลเกอร์ ได้ดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหารฝ่ายขาย การตลาด และการบริการหลังการขายของกลุ่มบริษัท เดมเลอร์ เอจี โดยเขาถือเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการนำเสนอรถยนต์ตระกูล M-Class สู่ตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก
ในปีพ.ศ. 2540 มร. โฟลเกอร์กลับมาปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท เดมเลอร์ เอจี อีกครั้ง โดยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มธุรกิจ การจัดจำหน่ายรถยนต์สำหรับบุคคลสำคัญ, กลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ, กลุ่มธุรกิจรถยนต์ปรับแต่งพิเศษเพื่อความปลอดภัย, กลุ่มธุรกิจรถยนต์เอเอ็มจี, กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์เสริมทางเทคนิค, กลุ่มธุรกิจสินค้า Merchandise รวมถึงยังเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของรถยนต์หลายตระกูล อาทิ M-Class, R-Class, A-Class และ B-Class
จากนั้นในปีพ.ศ. 2549 มร. โฟลเกอร์ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ และฝ่ายสื่อสารการตลาดประจำกลุ่มธุรกิจรถยนต์เอนกประสงค์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารสูงสุดด้านการจัดจำหน่ายรถยนต์เอนกประสงค์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลกตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2551
ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 นี้ มร. โฟลเกอร์ ได้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาเลเซีย ในช่วงปี พ.ศ. 2554-2558 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อินเดีย ในปีพ.ศ. 2558 - กันยายน พ.ศ. 2561
ประวัติเดมเลอร์ เอจี
เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) เป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก โดยบริษัทฯ ประกอบด้วยหน่วยธุรกิจต่างๆ ได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ คาร์ (Mercedes-Benz Cars), เดมเลอร์ ทรัคส์ (Daimler Trucks), เมอร์เซเดส-เบนซ์ แวนส์ (Mercedes-Benz Vans), เดมเลอร์ บัส (Daimler Buses) และเดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Daimler Financial Services) ซึ่งส่งผลให้กลุ่มบริษัทเดมเลอร์นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม และเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส เป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อ เช่าซื้อ ลีสซิ่ง สินเชื่อรถฟลีท ประกันภัย การลงทุนด้านการเงิน บัตรเครดิต และบริการด้านการเดินทางสัญจรรูปแบบใหม่ๆ
กอตต์ลีบ เดมเลอร์ (Gottlieb Daimler) และ คาร์ล เบนซ์ (Carl Benz) ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคิดค้นรถยนต์ขึ้นในปี ค.ศ. 1886 และในฐานะผู้บุกเบิกวงการวิศวกรรมยานยนต์ เดมเลอร์ยังมีบทบาทก่อร่างสร้างอนาคตของการเดินทางสัญจรอย่างต่อเนื่องตราบจนทุกวันนี้ โดยกลุ่มบริษัทฯให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสร้างสรรค์รถยนต์ที่นอกจากจะให้ความปลอดภัยและความเหนือระดับแล้ว ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้หลงใหลอีกด้วย เดมเลอร์เดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายระยะยาวเพื่อมุ่งสู่การขับขี่ที่ปราศจากการปล่อยไอเสีย เริ่มจากรถยนต์ไฮบริดไปจนถึงรถไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่หรือเซลล์เชื้อเพลิง นอกเหนือจากนี้บริษัทฯ ยังก้าวอยู่บนเส้นทางสู่การขับขี่ที่ไร้อุบัติเหตุและมีการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดซึ่งจะนำไปสู่โลกของการขับขี่อัตโนมัติ
เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า เดมเลอร์พร้อมรับความท้าทายต่างๆ เพื่อบรรลุบทบาทและหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
เดมเลอร์จำหน่ายรถยนต์และนำเสนอบริการต่างๆ ของบริษัทฯในเกือบทุกประเทศทั่วโลก และมีโรงงานผลิตทั้งในยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เอเชีย และแอฟริกา นอกจาก Mercedes-Benz ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดในโลกแล้ว (ที่มา: Interbrand-Study "The Anatomy of Growth" 10/5/2016) ยังรวมถึง Mercedes-AMG, Mercedes-Maybach และ Mercedes me แล้วแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯยังประกอบด้วย smart, EQ, Freightliner, Western Star, BharatBenz, FUSO, Setra และ Thomas Built Buses นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ของ เดมเลอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ได้แก่ Mercedes-Benz Bank, Mercedes-Benz Financial Services, Daimler Truck Financial, moovel, car2go และ mytaxi
บริษัทฯ มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและตลาดหลักทรัพย์ชตุทท์การ์ท (ชื่อย่อหลักทรัพย์ DAI) ในปีค.ศ. 2017 เดมเลอร์จำหน่ายรถยนต์ได้ประมาณ 3.3 ล้านคัน และรับคนเข้าทำงานกว่า 289,300 คน และหลังจากที่ได้ใช้ IFRS 15 และ IFRS 9 ในปีงบประมาณค.ศ. 2017 อาจทำให้เดมเลอร์มีเงินลงทุนเท่ากับ 164.2 พันล้านยูโร และมีกำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) 14.3 พันล้านยูโร ซึ่งก่อนที่จะใช้ IFRS 15 และ 9 นั้น เดมเลอร์มีเงินทุนในปีค.ศ. 2017 เท่ากับ 164.3 พันล้านยูโร และกำไรจากการดำเนินงาน 14.7 พันล้านยูโร