กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
"คงดีมากถ้านี่จะเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ทบทวนความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เรารัก"
Fukushi Sota / ฟุคุชิ โซตะ
Q: รู้สึกยังไงเมื่อได้รับการทาบทามให้เล่นบทนี้
A: ผมอยากแสดงให้กับนิยายของคุณฮิโระอยู่ก่อนแล้ว เลยมั่นใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องออกมาดี พอได้อ่านผลงานต้นฉบับก็เข้าใจครับว่าทำไมคุณอาริคาวะถึงพูดว่า "เรื่องราวที่เขียนได้แค่เล่มเดียวในชีวิต" ประทับใจมากจริงๆ แต่ผมก็กังวลมากเหมือนกันว่าถ้านำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วจะถ่ายกันยังไง เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับแมวอยู่ด้วย ผมเคยเลี้ยงสุนัขแต่แทบไม่มีโอกาสได้คลุกคลีกับแมว เลยไม่รู้ว่าจะต้องดูแลเขายังไง เริ่มต้นมาก็ประหม่า ๆ แบบนี้ครับ
Q: เจอนานะครั้งแรกรู้สึกยังไง
A: คิดว่าเขาน่ารักมาก แล้วก็ขนนุ่มสุด ๆ อยากเข้าไปกอดด้วยมาก ๆ แต่นานะไม่ชอบให้ใครอุ้มก็เลยหนีไป แต่ผมก็ชอบนานะทันทีเลยนะครับ เพียงแต่วิธีการแสดงความรักกับเขาจะจะต่างกับของสุนัข แรก ๆ ก็ลำบากมากครับ
Q: ไม่ได้ใจตรงกันทันทีหรอกเหรอ
A: ตอนแรกผมนึกว่าถ้าเอาหน้าไปแนบแบบที่ทำกับสุนัข เขาก็จะเลียแผล็บ ๆ อะไรแบบนี้ แต่พอลองแล้วเขาไม่ชอบ แถมตบผมด้วย (หัวเราะ) เล็บไม่ยาวนะครับ แต่อุ้งเท้าน่ะเต็ม ๆ พอเริ่มถ่ายไปได้สัก 2 อาทิตย์ เขาก็เริ่มจำหน้าผมได้แล้วครับ ซึ่งคราวนี้ก็จะมีฉากที่ต้องนั่งรถออกเดินทางกันบ่อย ๆ แล้วในรถก็จะมีแค่ผมกับเขา แถมช่วงที่ถ่ายทำก็ต้องเจอกันทุกวัน เหมือนว่าเขาจะค่อย ๆ ชินกับผม ที่เหลือก็แค่สังเกตและเรียนรู้จากครูฝึกสัตว์เลี้ยงว่าควรปฏิบัติกับเขายังไง เพราะเขาจะไม่เหมือนสุนัข แมวเราจับแถว ๆ คอของเขาได้ เวลาดึงแก้มเขาก็น่ารักดีครับ ปกติแมวมักจะเอาแต่ใจด้วย แต่ฉากไหนที่มีฝักบัวเขาจะกลัว ๆ น้ำ แล้วเข้ามาอ้อนเรา อันนี้ก็น่ารักครับ
Q: บรรยากาศที่กองถ่ายเป็นยังไงบ้าง
A: เป็นกองที่ทำทุกอย่างเพื่อนานะครับ เหมือนว่าทุกคนสามัคคีกันเพื่อดึงเอาสีหน้าของนานะออกมาให้ได้ บรรยากาศที่กองเลยเป็นไปอย่างนุ่มนวล อย่างฉากที่นานะต้องมานั่งบนตักผม บางวันเขาก็ไม่อยากจะนั่ง ผมก็แนะนำว่าเปลี่ยนเป็นยืนอุ้มให้นานะอยู่สบาย ๆ แทน จากนั้นทีมงานก็สั่งคัตแล้วขอให้เปลี่ยนมุมกล้องทันที ต่างจากเรื่องอื่นสุด ๆ เลยครับ เพราะปรับเปลี่ยนบ่อย ๆ ตามอารมณ์ของนานะ เวลาแสดงผมก็มักจะกดดัน แต่คราวนี้มีนานะอยู่ด้วย เลยกลายเป็นว่ากลับกัน เพราะรู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ส่วนตัวผมคิดว่าตัวเองเหมาะเป็นฝ่ายสนับสนุนมากกว่าเป็นตัวหลักด้วยล่ะครับ (หัวเราะ) เลยรู้สึกว่าเล่นเรื่องนี้แล้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
Q: ตั้งใจเล่นเป็นตัวละครซาโตรุแบบไหน
A: เขาเป็นหนุ่มใจดีแบบที่ผมไม่ค่อยถนัด ถ้าเปรียบกับรูปร่างก็เป็นวงกลมที่ไม่มีเหลี่ยมเลย พักหลังมานี้ผมได้เล่นหนังแอคชั่นเยอะด้วย เลยยากที่สุดที่ต้องมาเล่นเป็นเขา แต่ยากที่ว่าไม่ได้หมายถึงอุปนิสัยของตัวละครนะครับ ผมแค่คิดมากว่าจะถ่ายทอดเสน่ห์ของซาโตรุออกมายังไงให้ครอบคลุมจินตนาการของผู้ชม วันที่เจอ ผู้กำกับมิกิ โคอิจิโร่ ครั้งแรก ผมก็ได้เจอนานะด้วย ผู้กำกับมองผมอยู่กับนานะแล้วบอกว่า "ดีนะ ฟุคุชิคุงมีพื้นฐานดีมาก ๆ เลย" เป็นคำพูดที่ช่วยผมได้มากจริง ๆ
ผมเลยคิดว่าจะไม่พยายามสวมบทเป็นตัวละคร แต่จะเล่นโดยมองว่าตัวเองมีจุดไหนที่คล้ายซาโตรุบ้าง แล้วดึงจุดนั้นออกมาให้ได้มากที่สุดครับ
Q: รู้สึกว่าตัวเองกับซาโตรุมีอะไรที่คล้ายกันไหม
A: ผมคงไม่ใช่คนที่ใจดีอะไรขนาดนั้นนะครับ (หัวเราะ) แต่ที่เขาใจดีได้ขนาดนี้คงเพราะได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ชื่อของเขาก็มีความหมายที่ดีสมกับที่ชื่อซาโตรุเลย เพราะงั้นผมเลยเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของคนกับแมวแทนที่จะสวมบทบาทเป็นเขา งานนี้ก็ต้องคิดล่ะว่า แต่ละตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น นานะ ฮาจิ คุณอา รวมไปถึงเพื่อนนักเรียน มีความสัมพันธ์ยังไงกับซาโตรุบ้างครับ
Q: นานะมีความสำคัญยังไงกับซาโตรุ
A: พูดได้คำเดียวว่าคือครอบครัวครับ เดิมทีนานะเป็นแมวจรที่ไม่มีครอบครัว แต่ตอนนี้นานะคือครอบครัวของเขา ผมเลยคิดว่าซาโตรุคงไม่อยากอยู่เดียว แต่อยากให้นานะมาเป็นครอบครัวของเขาครับ
Q: ความประทับใจต่อเพื่อนนักแสดงในกอง
A: ผมได้แสดงกับคุณยูโกะเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่มีความเป็นธรรมชาติมาก แล้วก็เป็นคนที่ช่วยทำให้บรรยากาศราบรื่น คราวนี้ผมกับได้เธอเล่นเป็นอากับหลาน เธอช่วยดึงอารมณ์ในตัวผมให้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็ช่วยผมได้มาก กับเพื่อนมัธยมปลาย เราถ่ายทำตอนชีวิตมัธยมปลายกันเยอะที่สุด ยังประทับใจฉากที่ได้เล่นกับอลิซและคุณทาคุโร่อยู่เลย คือพวกเราก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้วไงครับ (หัวเราะ) พอได้ใส่ยูนิฟอร์มแสดงเยอะ ๆ มันก็สนุกมากจริง ๆ แล้วไม่ใช่เฉพาะทั้งสามคนนี้ นักแสดงคนอื่นก็รักสัตว์กันทุกคน อยู่ที่กองคุยกันถูกคอมากครับ
Q: การทำงานร่วมกับผู้กำกับมิกิ
A: คุณผู้กำกับเป็นมิตรมากตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเลยครับ ไม่ถือตัว เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเลย เวลาถ่ายทำเขาก็ไม่เคยทำให้เราเครียด เพราะผู้กำกับเขาจะคอยพูดติดตลกให้บรรยากาศในกองดูผ่อนคลาย จะว่าเป็นนักสร้างบรรยากาศก็คงได้ แต่นานะเขาจะไม่ค่อยอินด้วยเท่าไหร่ พอจะแหย่เข้าหน่อยก็หนีเลยครับ (หัวเราะ)
Q: คิดยังไงเมื่อได้รับชมหนังฉบับสมบูรณ์ที่ให้เสียงโดย ทากาฮาตะ มิตสึกิ
A: เธอเสียงดีมาก แล้วก็พูดเก่งด้วย ทั้งหมดออกมาดูคล้ายนานะจนผมเองก็ตกใจ พูดออกมาคำแรกผมถึงกับตะลึงนึกว่าแมวพูดได้จริง ๆ พอมาคำที่สองดูยังไงก็นานะชัด ๆ เลยครับ แล้วนานะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ให้นักพากย์หญิงมาพากย์เป็นเด็กผู้ชาย ต่อให้พากย์เป็นเด็กผู้ชาย ก็ยังรู้สึกว่ามีความเป็นผู้หญิงอยู่ (หัวเราะ) นานะเลยดูน่ารักเกินไปนิด แต่นานะเองก็แสดงได้ดีมาก รู้เลยว่ากว่าจะถ่ายออกมาได้ต้องลำบากแค่ไหน ประทับใจในผลของความเหนื่อยยากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยครับ แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่ผมดูภาพยนตร์ที่ตัวเองเล่นแล้วร้องไห้ ฉากนานะกับฮาจินี่แน่นอนอยู่แล้ว แต่ฉากสมัยวัยรุ่นของซาโตรุตอนอยู่ที่กองผมยังไม่เคยเห็น ไม่คิดว่าจะร้องไห้แต่ก็ร้องครับ
Q: อยากบอกอะไรผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้
A: แน่นอนล่ะว่าเรื่องนี้แมวน่ารัก แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนกับแมว หรือความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนก็บรรยายไว้ได้ดี เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมาก ๆ และคงดีมากถ้านี่จะเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ทบทวนความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เรารักครับ