สทนช.เรียกประชุมตามติดแผนรับมือฤดูแล้ง มอบหน่วยงานเกี่ยวข้องเก็บกักน้ำทุกวิธี หลังใกล้สิ้นสุดฤดูฝน ด้านพื้นที่ภาคใต้ยังต้องจับตาสถานการณ์ฝนและแนวโน้มพายุใกล้ชิด

ข่าวทั่วไป Tuesday October 16, 2018 17:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ วันนี้ (16 ตุลาคม 2561) นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 9/2561 ณ ห้องประชุม ชั้น 4 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแผนการเตรียมการรับสถานการณ์น้ำหลากภาคตะวันตกและภาคใต้ แผนการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง รวมทั้งการหารือถึงการปิดศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และ สสนก. ระบุว่า ในช่วง 7 วันหลังจากนี้ ยังคงมีปริมาณฝนที่ตกในหลายพื้นที่แต่ไม่มากนัก แต่มีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2561 คือพื้นที่ภาคใต้ตอนบน บริเวณจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่จะได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้มีฝนตกหนักเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมการป้องกันและการให้ความช่วยเหลือหากเกิดสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ไว้แล้ว ในส่วนของ 38 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในปัจจุบัน พบว่า มีอ่างเก็บน้ำ 6 แห่ง ที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำต้นทุนน้อย คือ อ่างเก็บน้ำแม่มอก จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น อ่างเก็บน้ำลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี และอ่างเก็บน้ำกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี เนื่องจากปริมาณน้ำมีจำกัด ทำให้กรมชลประทานมีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ และไม่สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกนาปรังได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการวางแผนเก็บกักน้ำในช่วงปลายฤดูฝนไว้ให้ได้มากที่สุด กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีแผนที่จะดำเนินการเพิ่มน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อย รวมทั้งพื้นที่การเกษตรด้านท้ายอ่างฯที่ต้องการน้ำ ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก็จะเร่งเพิ่มน้ำต้นทุนให้กับการผลิตน้ำประปาชนบทอีกด้วย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้เหลือน้อยที่สุดและทุกภาคส่วนมีน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการของศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม2561 นั้น ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่าง ๆ เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้เคยออกประกาศ แจ้งว่าฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม 2561 (ประกาศเมื่อวันที่ 28 พ.ค.61) ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับการคาดการณ์สภาพอากาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจึงขอปิดศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป แต่หากมีเหตุวิกฤติที่ต้องดำเนินการเชิงป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากน้ำ หรือเกิดเหตุน้ำท่วมต่อเนื่องและรุนแรง สทนช.จะทำการเปิดศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำและช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ