กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดการประชุมอภิปรายในหัวข้อ "การพัฒนาด้านการเชื่อมต่อพลังงานระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" หรือ Northeast Asia and Southeast Asia Energy Interconnection Development Forum ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 450 คนจากทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ รวมแล้วมาจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมประชุมวางแผนการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาเชื่อมต่อพลังงานระดับโลกในภูมิภาคเอเชียแบบเชิงลึก รวมถึงร่วมกันสร้างเขตจำลองการเชื่อมต่อพลังงานในระดับภูมิภาคอีกด้วย ในที่ประชุมครั้งนี้ได้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอหัวข้อ "รายงานการวิจัยการเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ" และ "รายงานการวิจัยการเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ที่ประชุมยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ สำหรับการพัฒนาพลังงานสะอาดและการเชื่อมต่อโครงข่ายในภูมิภาคอย่างครบวงจร
นายหลิว เจิ้นย่า ประธานองค์การเพื่อการพัฒนาและความร่วมมือด้านการเชื่อมต่อพลังงานระดับโลก พร้อมด้วยประธานสภาการไฟฟ้าจีน และ นักวิชาการแห่งสถาบันวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน รวมถึงนักวิชาการแห่งสถาบันวิศวกรรมศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร ได้เข้าร่วมเวทีการประชุมนี้พร้อมกล่าวคำปราศรัย นอกจากนั้นยังมี นาย หลี เหย่ ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลสำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติจีน นาย หลิว หงเผิง ผู้อำนวยการด้านพลังงาน คณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานแห่งประเทศมองโกเลีย ได้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ด้วย
นาย หลิว เจิ้นย่า กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกเร็วที่สุด ดังนั้นอุปสงค์และอุปทานด้านการพัฒนาพลังงานก็มีมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้พลังงานฟอสซิลที่สูงเกินพลังงานอื่นๆ อีกทั้งความสามารถด้านการผลิตไฟฟ้าระหว่างประเทศก็ไม่เพียงพอกับความท้าทายที่เกิดขึ้น สำหรับการพึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศของประเทศจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้นั้นก็มีมากกว่า 80% ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปัจจุบันมีประชากรมากถึง 65 ล้านคนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และยังมีประชากรราว 250 ล้านคนยังคงใช้ฟืนและถ่านสำหรับการปรุงอาหารและทำความร้อน ดังนั้นการเร่งการก่อสร้างระบบเชื่อมต่อพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำให้แหล่งจ่ายพลังงานของแต่ละประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะต้องเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดอีกทางหนึ่งด้วย
"ทั้งนี้การผลักดันสภาพเศรษฐกิจและส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการในระดับภูมิภาคจำเป็นต้องมีการสร้างความร่วมมือเชื่อมต่อพลังงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในขณะนี้ได้มีการแบ่งลงทุนก่อสร้าง ในส่วนระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับการขับเคลื่อนพลังงาน 2.7 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ และส่วนการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำอีกกว่า 2.1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ สามารถสร้างงานบุคลากรอีกกว่า 30 ล้านคน"
นาย หลิวเจิ้นย่ากล่าว
การประชุมครั้งนี้ได้มีผู้เข้าร่วมอภิปรายจากหลากหลายภูมิภาคและจากหลากหลายองค์กร อาทิ ตัวแทนหน่วยงานราชการจากประเทศจีน รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย คาซัคสถาน อิตาลี ฯลฯ บริษัทด้านพลังงาน สถาบันการวิจัย รวมถึงผู้แทนจากสถาบันการเงิน โดยทั้งหมดได้มีการร่วมกันประชุมและพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในกรอบของหัวข้อต่างๆ อันได้แก่ พลังงานสะอาดและการเชื่อมต่อ ความร่วมมือในการสร้างและพัฒนาแหล่งพลังงาน โดยเน้นที่การทำให้เกิดการเชื่อมโยงทำงานร่วมกัน รวมถึงได้แบ่งปันงานวิจัยและแนวคิดในหัวข้อการเชื่อมต่อพลังงานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเฉียงใต้ เพื่อให้เห็นถึงอนาคตของการเชื่อมต่อพลังงานโลกที่ดียิ่งๆขึ้นไป